กล็อก โมเดล 25
เพื่อนเป็นของสุภาพสตรี (ไม่ใช่เพื่อนตาย)

ในนิตยสาร อวป. ฉบับที่ 313 เดือนพฤศจิกายน 2543 คุณอ๊อด บ้านโป่ง ได้รายงานผลการทดสอบกล็อกโมเดล 28 อัน เป็นปืนขนาดกะทัดรัด ใช้กระสุน .380 ACP ได้ข้อสรุปว่าเป็นปืนเหมาะสำหรับสุภาพสตรี จะใช้ในการป้องกันตัว ครั้งนี้เราได้มีโอกาสทดลองยิงกล็อกโมเดล 25 ใช้กระสุน .380 ACP เช่นกัน ดูตามหมายเลขรุ่นแล้วก็จะทราบได้ว่าเกิดก่อนโมเดล 28 แต่การที่ปืนรุ่นไหนเข้ามาในตลาดก่อนหรือหลัง ก็มีอิทธิพลมาจากความต้องการของตลาดอยู่มาก โมเดล 25 นี้มีสัดส่วนเป็นขนาดเล็ก หรือที่เรียกกันว่าขนาดคอมแพ็ก การที่ปืน .380 ACP ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เมื่อเทียบกับ 9 มม. ก็น่าจะเป็นเพราะอำนาจหยุดยั้งเบากว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ด้อยกว่าก็กลายเป็นคุณสมบัติที่ดีกว่าในอีกด้านหนึ่งก็คือ แรงรีคอยล์ที่เบากว่าทำให้ควบคุมปืนได้ง่ายกว่า ยิงซ้ำได้เร็วและแม่นยำกว่า สอดคล้องกับข้อสรุปที่ได้จากการทดสอบกล็อกโมเดล 28 ที่ผ่านมา

กล็อก โมเดล 25 จากทางด้านซ้ายมือนอกจากไกปืนแล้วคันบังคับอื่น ก็มีคันปลดล็อกสไลด์และปุ่มปลดแม็กกาซีน

ลักษณะของปืนก็เป็นกล็อกทั่วไป ดำทั้งตัว สไลด์เหลี่ยมเรียบ โครงด้ามทำด้วยโพลิเมอร์ รูปแบบเป็นรุ่นที่สามแล้วจำได้ไหมครับ รุ่นที่หนึ่งผิวโพลิเมอร์ทำกันลื่นเป็นเม็ดเล็กๆ ซึ่งคงไม่ค่อยจะกันลื่นก็เลยออกรุ่นที่สองมีลายกันลื่นใหญ่หน่อย เป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียกว่า รุ่นผิวระเบิดมือ สำหรับรุ่นที่สามก็เพิ่มร่องนิ้วที่หน้าด้าม และร่องวางหัวแม่โป้งไว้ทั้งซ้ายและขวา แถมท้ายด้วยรางติดอุปกรณ์ช่วยเล็งที่ด้านหน้าโครงปืน

กล็อกโมเดล 25 นี้รูปร่างเหมือนกันเปี๊ยบกับโมเดล 19 (9 มม.) และโมเดล 23 (.40 S&W) วางไว้ด้วยกันถ้าไม่เห็นตัวเลขรุ่น ก็จะบอกไม่ได้เลยว่าเป็นรุ่นไหน โครงปืนและชุดลั่นไกเหมือนกันหมด ถอดสไลด์มาสลับกันก็ได้ นั่งดูอยู่เป็นนานจึงเห็นความแตกต่าง อันนี้นอกเหนือจากลำกล้องและแม็กกาซีนนะครับ คือส่วนในของสไลด์โมเดล 25 มี การปาดเนื้อโลหะออกไปบ้างเมื่อเทียบกับโมเดล 19 แต่ก็ไม่มาก ชั่งน้ำหนักสไลด์ทั้งสองรุ่นก็ไม่ต่างกัน อีกจุดหนึ่งที่มองเห็นคือ ปีกโลหะที่จับรางสไลด์คู่หลังสั้นกว่าของโมเดล 19 แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหมายความว่าอะไร จะลดต้นทุนเพราะกระสุน .380 เบากว่า ก็ไม่น่าจะได้อะไรกับโลหะชิ้นแค่นี้ ปีกโลหะชิ้นนี้ของโมเดล 28 ที่ทดสอบไปก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับของโมเดล 19

กล็อกโมเดล 25 จากทางด้านขวามือ ไม่มีคันบังคับอะไรเลย แต่มีร่องพักนิ้วหัวแม่มือสำหรับมือซ้ายด้วย

ศูนย์เล็งเป็นแบบสอดไส้สารเรืองแสง ทำให้เห็นได้แม้ในเวลามืดสนิท ยกขึ้นเล็งจะเห็นภาพศูนย์เป็นแบบสามจุดเรียง คือเอาศูนย์หน้ามาอยู่ระหว่างกลางศูนย์หลังสองจุด ต่างจากแบบธรรมดาซึ่งใช้ศูนย์หน้ากลมขาวขนาดใหญ่ และศูนย์หลังตัวยูเหลี่ยมสีขาว

กล็อกโมเดล 25 กระบอกนี้มาพร้อมกับไก 3.5 ปอนด์ ซึ่งเบากว่ารุ่นปกติอยู่นิดหน่อย ปกติจะเป็น 5.5 ปอนด์ครับ การปรับเปลี่ยนน้ำหนักไกของกล็อกนั้นใช้วิธีเปลี่ยนชิ้นส่วนที่จะเรียกว่าเซียร์ก็พอไหว ทำเองก็ได้ไม่ยาก หลังจากปลดแม็กกาซีน แล้วตรวจดูให้แน่ว่าไม่มีกระสุนอยู่ในรังเพลิง ก็เหนี่ยวไกแห้งไปหนึ่งครั้งให้ไกอยู่ในตำแหน่งชิดหลัง ดึงสไลด์ถอยหลังเล็กน้อยพร้อมกับจับคันถอดปืนทั้งสองข้างดันลงพร้อมกัน แล้วก็ปล่อยสไลด์ให้เดินหน้าไปพ้นโครงปืนได้ ในคู่มือบอกให้ดึงสไลด์ถอยหลังไป 4 มม. แล้วค่อยกดคันถอดปืน ผมว่าอย่าให้ถึงกับให้เพื่อนถือไม้บรรทัดรอวัดระยะเลยนะครับ ดึงสไลด์ถอยหลังไปสักหน่อย ถ้ายังกดไม่ลง ก็ถอยไปอีกนิด แต่ละกระบอกก็ถอยไม่เท่ากันหรอกครับ จากนั้นถ้าจะซนถอดชุดลั่นไก ออกมาก็ต้องหาแท่งเล็กๆมาดันสลักออกสองตัว ตัวหนึ่งเป็นแกนหมุนของไกอยู่ด้านหน้า อีกตัวหนึ่งยึดชุดลั่นไกอยู่ด้านหลัง แล้วก็ดึงชุดลั่นไกพร้อมตัวไกและสะพานไกมาได้ ทีนี้ก็จะเห็นเซียร์ที่ว่านี้อยู่ ใช้ไขควงแบนตัวจิ๋วๆดันส่วนที่สอดอยู่ในช่อง ง้างสะพานไกหลบเสียหน่อยก็ถอดออกได้ครับ

กล็อก โมเดล 25 มาในกล่องเดิมๆ แถมเครื่องมือล้างปืน และเครื่องช่วยบรรจุกระสุน

แต่สถึงตรงนี้ก็ขอแสดงความนับถือกล็อกที่ออกแบบปืนมาดูแสนจะธรรมดา จะถอดจะทำอะไรก็ง่ายไปหมด ชิ้นส่วนก็มีไม่มาก เซียร์และแง่นกสับที่ปืนทุกยุคทุกสมัยใช้วิธีให้โลหะสองชิ้นมีมุมขบกัน จะปรับน้ำหนักไกก็ขัดถูมุมทั้งสองกันเป็นที่ยากเย็น มาถึงคุณกล็อกแกก็ใช้การทำมุมของโลหะแผ่น เป็นตัวกำหนดน้ำหนักไก หยิบชิ้นที่บอกว่า 3.5 ปอนด์ใส่เข้าไปมันก็ได้อย่างที่ต้องการ ผิดนิดผิดหน่อยก็พอรับได้สำหรับปืนที่ใช้งานยิงเร็วแบบนี้ ที่ดีอีกอย่างก็คือมันไม่สึกหรอเท่ากับใช้มุมขบกัน ยิงให้ตายน้ำหนักไกก็ไม่เปลี่ยน กว่าจะได้ของที่ใช้งานได้ดีทนทาน ผลิตง่ายนี้ก็ต้องใช้ความคิดมากอยู่นะครับ

อีกคุณสมบัติหนึ่งที่ผมพบว่ากล็อกเหนือปืนอื่นๆก็คือล้างง่ายครับ ลำกล้องที่เกลียวไม่เป็นร่องลึกนี้ล้างง่ายจริงๆ เผลอยิงแล้วทิ้งไว้ไม่ได้ล้างเป็นเดือนๆ เอาน้ำยาชุบผ้าแยงแช่ไว้ครู่เดียวมาขัดก็ออกหมด ไม่ดื้อเลย โครงปืนที่เป็นโพลิเมอร์ก็ไม่รู้จะล้างอะไร ไม่ค่อยมีเขม่าลงมาอยู่แล้ว ใช้ผ้าเช็ดๆก็พอ มีที่บริเวณหน้าเข็มแทงชนวนที่มีเขม่ามาบ้าง ก็เช็ดออกไม่ยาก ปืนกล็อกมาใหม่แกะกล่อง จะมีสารหล่อลื่นสีคล้ายทองแดงป้ายมาแถวร่องสไลด์ กล็อกคุยว่าหล่อลื่นได้วิเศษนัก ได้ปืนมาใหม่ๆ อย่านึกว่าเป็นสนิมแล้วเช็ด ออกเสียหมดนะครับ น่าเสียดายที่ยิงแล้ว ล้างไปไม่กี่ทีก็หลุดหมด

เปรียบเทียบกล็อก โมเดล 25 และ 19 อะไรๆ ก็เหมือนกันไปหมด

การยิงทดสอบใช้กระสุนยี่ห้อวินเชสเตอร์แบบหัวบอลล์เคลือบแข็ง (full metal jacket) หนัก 95 เกรน เหมือนกับที่ใช้ทดสอบยิงโมเดล 28 ในฉบับที่ 313 ยิงทดสอบกันสองรอบ รอบแรกให้มือปืนสุภาพสตรียิงทดสอบ ใช้สนามยิงปืนกรมการรักษาดินแดน รอบสองเป็นรอบของสุภาพบุรุษ ทีม อวป. ยิงทดสอบกันที่สนามยิงปืนราชนาวี บางนา ตามมาตรฐานที่ปฏิบัติกันอยู่

ผู้ยิงทดสอบฝ่ายหญิงที่สนาม ร.ด. มีอยู่สามคนได้แก่คุณพัชรี, คุณอัจฉราพร และ ดาวิษา ขั้นแรกให้ทุกคนทำการยิงในระยะ 15 เมตร คุณอัจฉราพรซึ่งผ่านหลักสูตรเสนา รักษาดินแดนมาแล้ว ยิงทำกลุ่มกระสุนได้ขนาดฝ่ามือ กลุ่มต่ำ ซึ่งเป็นปกติของสายตาที่ต่างกันและก็ไม่ได้จับปืนอีกตั้งแต่เรียนจบ ถามดูว่ารู้สึกอย่างไรกับปืนก็ได้คำตอบว่า "ดีค่ะ" "แค่นั้นหรือครับ" "ค่ะ" "คุมปืนอยู่ดีไหมครับ" "ค่ะ" "ตอบอย่างอื่นเป็นไหมครับ" "ค่ะ"

คุณพัชรี โสระพันธ์ ทดลอง ยิงกล็อก โมเดล 25 โดยมีครูประชา โคจริก ของสนามยิงปืนกรมการรักษาดินแดนช่วยดูแลแนะนำ

ดาวิษาซึ่งชำนาญแต่ปืนยาวลูกกรด ถูกเคี่ยวเข็ญให้ยิงปืนสั้น ยิงไปหลับตาไป ได้กลุ่มกระสุนเหมือนใช้ปืนลูกซองยิงก็ไม่ว่ากัน ถามถึงความรู้สึกก็บอกว่าที่จริงไม่ได้ยิงยากเย็นอะไร รู้สึกว่าไม่ค่อยถีบ แต่จำต้องแหยงและหลับตายิงตามหน้าที่ ถามว่าหน้าที่อะไรก็ตอบว่าหน้าที่ที่ต้องสะดุ้งและแหยงปืนสั้นที่เสียงดังมากกว่าปืนยาว

ทดลองยิงเร็ว ท่าเตรียมพร้อม ถือปืนชี้ลง 45 องศา เมื่อเริ่มยิงยกปืนขึ้น จับเป้าได้ก็ยิงทันที จับเป้าใหม่ยิงซ้ำทันที ยิงเป้ารูปข้าศึกของสนาม ร.ด. ในระยะ 7 เมตร เป้าแบบนี้ผมเอาไปแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อถ่ายรูปสุนัขที่บ้านเห่าไม่หยุดจนต้องปลด เป้าออกไปเก็บ

ถึงคราวคุณพัชรียิง ความที่เป็นมือเก่าไม่มีข้อแก้ตัว แต่ก็ยิงทำกลุ่มได้ดีที่สุดของการทดสอบยิงไปสองชุดได้ผลเหมือนกัน แค่นิ้วครึ่ง แต่มีข้อแม้ว่ายิงห้านัดต้องแตกหนึ่งนัดสุดท้ายที่เดิมเสียด้วย เอาสองเป้าที่ยิงมาทาบกันจะได้รูกลุ่มสี่นัดและแตกหนึ่งนัดตรงกันพอดี ความกลัวว่าจะแตกกลุ่มนั่นแหละครับ ทำให้มันแตกกลุ่มเหมือนกับเมื่อตอนยิงทดสอบปืนสั้นลูกกรด เห็นกลุ่มกระสุนที่ยิงไปแล้วดีกลัวว่ายิงต่อจะไม่ดีก็เลย ไม่ดีเอาจริงๆ สู้ไม่เห็นกลุ่มกระสุนเลยไม่ได้

(ซ้าย) เป้าของคุณพัชรียิงกล็อกโมเดล 25 (ขวา)เป้าของคุณพัชรียิงกล็อกโมเดล 25 เปรียบเทียบกับกล็อกโมเดล 19

จากนั้นก็ให้คุณพัชรีลองยิงกล็อกโมเดล 19 เปรียบเทียบกัน ซึ่งรูปร่างหน้าตาและขนาด ปืนเหมือนกันกับโมเดล 25 นี้ ผลที่ได้ต่างกันมากกลุ่มกระสุนจากโมเดล 19 โตเท่าฝ่ามือ พอจะเห็นคุณค่าของโมเดล 25 แล้วละครับ จากนั้นก็ให้ยิงอย่างเร็วเทียบกันอีก ทั้งสองกระบอกใช้เป้าหุ่นคนของสนาม ร.ด. ให้ยกปืนขึ้นเล็งสองตา จัดศูนย์เหนี่ยวไก อย่างเร็วไปจนหมดห้านัด การยิงแบบนี้แหละครับที่พิสูจน์ได้ทั้งคุณค่าของกล็อก และทั้งข้อดีของโมเดล 25 ที่ใช้กระสุน .380 ACP ที่มีเหนือโมเดล 19 ที่ใช้กระสุน 9 มม. คุณพัชรีถ่ายทอดความรู้สึกของการยิงทั้งสองกระบอกว่า โมเดล 25 มีแรงรีคอยล์ต่ำกว่าโมเดล 19 มาก ทำให้จัดศูนย์ได้ง่ายและเร็ว น้ำหนักไกที่ต่างกันไม่สู้มีผลต่อการยิงเร็ว แม้ว่าจะเป็นปืนที่เราเรียกว่าขนาดคอมแพ็กแต่การที่มีด้ามเต็มทำให้จับได้ถนัดดี ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ที่ต้องพกติดตัวไปไหนๆ อย่างเช่นอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานก็จะเลือกเอากระบอกโตจับถนัดดีกว่า

เราไม่ได้มีโอกาสทดสอบดูศูนย์เล็งในที่มีแสงน้อย แต่จากที่ส่องดูในบ้านมืดๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักจะรู้คุณค่ากันอีกที ก็เห็นจะเป็นตอนที่มืดจริงๆ

ดาวิษาแห่งสาธิตจุฬาฯ ยิงแล้วก็บอกว่าไม่เห็นถีบเลย แต่ทำไมกลุ่มมันบานยังงั้นล่ะ กลับไปยิงปืนยาวลูกกรดอย่างเดิม ก็แล้วกันนะลูก คุณอัจฉราพร แห่งไทยพาณิชย์ มาช่วยยิงแล้วออกความเห็น "ยิงแล้วก็งั้นๆ ไม่เห็นยากอะไรค่ะ"

ผลการยิงของฝ่ายสุภาพบุรุษที่สนามราชนาวี บางนา แม้ว่ากลุ่มกระสุนจะสู้ฝ่ายหญิงไม่ได้แต่ก็ไม่มีแตกไปหนึ่งนัด คือยิงได้กลุ่มแค่ไหนก็แค่นั้นไม่มีอาการตื่นเต้นจนแตกแถว ป๋าตระกูลที่เจอปืนแบบนี้ ทีไรก็ต้องเอาไปซัลโวมือเดียวสักชุดหนึ่งก็ยังประทับใจกับผลการยิงเป้าเงาคน กระบอกนี้ศูนย์กินขวาเล็กน้อย ดันศูนย์หลังไปซ้ายสักหน่อยก็ใช้การได้ครับ แต่ทั้งนี้ปืนใครก็ต้องใช้ตาคนนั้นลองยิงนะครับ

(ซ้าย) เป้าของคุณอัจฉราพร (กลาง) ของคุณบัณฑุผู้เขียน และขวาของคุณดาวิษา

กล็อกโมเดล 25 นี้จะให้สรุปว่าเหมาะ แต่สำหรับสุภาพสตรีเสียทีเดียวก็ไม่น่าจะถูก แรงรีคอยล์ที่ต่ำจนคนที่ไม่ค่อยได้จับปืนก็ยังควบคุมการยิงโมเดล 25 นี้ได้ดีไม่ว่าจะเป็น ชายหรือหญิงนะครับ ด้ามขนาดเต็มก็ยิ่งเสริมคุณสมบัติในการควบคุมปืนยิ่งขึ้น ใครๆ ในบ้านมือใหญ่มือเล็กก็ยิงได้ กลางค่ำกลางคืนก็ยิงเห็นกระบอกนี้เอาไว้เฝ้าบ้านดีนัก ถามหาได้ที่สิงห์ทองไฟร์อาร์ม โทร. 22 45 357.
นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 318 เมษายน 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com