เลส เบเออร์ ทีอาร์ สเปเชียล
รุ่นสั่งทำพิเศษตามข้อกำหนดของค่ายอัสนีบาต

ในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมานี้ ท่านผู้อ่านคงสังเกตได้ว่ามีปืนในรูปแบบ 1911 โคลท์-บราวนิง เข้ามาขายบ้านเราหลายยี่ห้อในรูปแบบต่างๆ มากมาย มีตั้งแต่ราคา ประหยัด ซึ่งในยุคเงินไทยไม่ค่อยมีค่านี่ก็ตกกระบอกละสี่หมื่นกว่า ไปจนถึงแพงสุดๆ กระบอกละสามแสน คือของ เลส เบเออร์ รุ่นพรีเซนเตชั่น (อ่าน อวป. 304, ก.พ. 43) ที่ผู้ผลิตเคยบอกว่าทั้งโลกมีแค่สองกระบอก ด้านการใช้งานจะเลือกปืนสำหรับติดตัว สมบุกสมบัน เฝ้าบ้านป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ยิงเป้าแข่งขันทั้งแบบพาดแท่นแม่นสุดๆ หรือรณยุทธ์ แข่งความเร็วรัวกัน วันละสามสี่ร้อยนัด ซองกระสุนแบบแถวเดี่ยวหรือลูกดก ต่อปากกระบอกติดคอมพ์ ติดกล้องสารพัดสารพันจนเกินบรรยายมีให้เลือกทั้งนั้นครับ แปลกที่ว่ายี่ห้อ "โคลท์" ของแท้เจ้าเก่ากลับเป็นของหายากไปแล้ว

ปืน "ธันเดอร์แรนช์" รูปร่างเป็น 1911 ธรรมดา มีลายกันลื่นเพิ่มด้านหน้า ใกล้ปลายลำกล้อง

สำหรับฉบับต้อนรับปีใหม่นี้ ปืนที่ผมได้รับมายิงทดสอบและรายงานเป็น 1911 อีกกระบอกหนึ่ง จาก เลส เบเออร์ คัสตอม เช่นเดียวกับปืนสามแสนเมื่อต้นปีที่แล้ว แต่กระบอกนี้ได้ยิงจริงครับ แม้ว่าจะเป็นรุ่นพิเศษ ก็ไม่ใช่ชนิดเก็บไว้ดูอย่างเดียว คือ รุ่นทีอาร์ สเปเชียล (TR Special) หรือที่ "สินธุ วิสุทธิ" แปลลงไว้ใน อวป. ฉบับ 308 (มิ.ย. 43) "DAYS OF THUNDER - วันอัสนีบาตประกาศศักดา" คงได้อ่านกันไปแล้วนะครับ รอตัวจริงอยู่เกือบครึ่งปี ห้างฯ ปืนประโยชน์ ถึงได้รับของ


ลำกล้องฟิตแน่น จับบูชเฉพาะส่วนปลาย
ซองกระสุนสเตนเลสส์ส้นหุ้มยาง
โครงปืนแกะหมายเลขประจำปืน เหนือไก เมื่อถอดลำเลื่อนออกห้ามเหนี่ยวไก ให้นกสับ ถ้าจะลดนกต้องช่วยกดตัวนกไว้ไม่ให้ สับลงมาที่โครง

ตัวย่อ TR ในชื่อรุ่น TR Special ก็คือ Thunder Ranch นั่นเองครับ แปลตรงๆว่า "ไร่อัสนีบาต" แต่ไม่ได้หมายความว่าที่นี่ เขาจะมีการทำไร่เพาะปลูกเหมือนชาวไร่ ข้าวโพดไร่มันสำปะหลังของไทยเรา คำว่า Ranch จะใช้กับทุ่งหญ้ากว้างที่ปล่อยให้ปศุสัตว์ เดินหากินเองได้ จนอ้วนพีได้น้ำหนักดีแล้วค่อยต้อนไปขาย แต่ก่อนมีทั้งทุ่งหญ้าแบบไม่มีเจ้าของ (Public) และมีเจ้าของจับจองกั้นรั้ว (Private) ปัจจุบันเจ้าของทุ่งกว้างลักษณะ Ranch นี้ บางส่วนเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นการขายบริการห้องพักพร้อมอาหารสำหรับวันหยุดพักผ่อน มีกิจกรรมกลางแจ้งประกอบ เช่น ตกปลา ล่าสัตว์ ขี่ม้าชมทิวทัศน์ กางเต็นท์ นอนดูดาว ถ่ายภาพ ฯลฯ ซึ่งคนเมืองที่อุดอู้ จำเจอยู่แต่ในตึกสูงนิยมกันมาก แต่สำหรับ "ไร่อัสนีบาต" นี่ นอกจาก ห้องพักและอาหารแล้วยังมีความพิเศษกว่าที่อื่น เพราะกิจกรรมหลักที่เป็นตัวดึงดูดผู้มาพักคือ การฝึกยิงปืนต่อสู้ป้องกันตัวครับ เนื่องจากเจ้าของไร่คือ นายคลินท์ สมิธ (Clint Smith) เคยเป็นทั้งตำรวจและทหารนาวิกโยธินสมัยสงครามเวียดนาม มีประสบการณ์ด้านนี้มากมาย พอจะถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจทั้งหลายได้

กลไกเป็นระบบ 1911 เดิม ไม่มีสมอ ปุ่มสีขาวคือตัวตัดการทำงานของไก เมื่อลำเลื่อน ขยับจากตำแหน่ง ลำเลื่อนสลักเลขตรงกับโครงช่องเว้า ท้ายลำเลื่อนรับกับตัวตัดไกของภาพ 16

เมื่อสอนลูกศิษย์อย่างได้ผลต่อเนื่องมานาน ชื่อเสียงของไร่อัสนีบาตก็เป็นที่ ยอมรับในวงการนักนิยมปืนระบบต่อสู้ ในทำนองเดียวกัน เลส เบเออร์ ก็ไต่เต้าจาก ช่างแต่งปืน ขึ้นมาเป็นโรงงานผลิตปืนระดับ "คัสตอม" (Custom) ชนะประกวดได้สัญญา FBI ที่ต้องการปืนพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจมาแล้ว ทั้งสองพบกันในงาน SHOT SHOW ที่เมืองแอตแลนต้า นายสมิธชอบปืน "พรีเซนเตชั่น" ของ เลส เบเออร์ จึงติดต่อ ให้เป็นผู้ผลิตปืนต่อสู้ติดตราไร่อัสนีบาตโดยเฉพาะ งานนี้นายเลส เบเออร์ ย่อมยินดี ทำให้เพราะเหมือนกับได้ชื่อนายคลินท์ สมิธ และ Thunder Ranch มารับประกันคุณภาพ ปืนของเขาอีกระดับหนึ่ง

ลำกล้อง สลักเลขไว้หน้า หูรับโตงเตง ปลายแกนสปริง ลำเลื่อนด้านใน สลักห่วงโตงเตงย้ำไว้ ไม่หลุดง่าย ท้ายลำกล้อง บริเวณทางลาดป้อน กระสุนขัดเงา

ปืนทีอาร์ สเปเชียล เริ่มจาก "พรีเมียร์ทู" (Premier II) รุ่นขายดีที่สุดของเลส เบเออร์ เช่น เดียวกับที่เคยใช้แต่งให้เป็น "พรีเซนเตชั่น" กระบอกละสามแสนมาแล้ว สิ่งที่นายสมิธ เน้นเป็นพิเศษคือ เป็นปืนสำหรับพกพาแบบซองนอก คล่องตัวสูงสุด ทำงานเรียบร้อยไม่ติดขัด และทนทานไว้ใจได้ เหมือนปืนทหารเดิม จากข้อกำหนดเหล่านี้ ปืนที่ได้จึงใช้ศูนย์ตายแบบทรงเตี้ยของโนแว็กส์ (ไม่ต้องกังวลศูนย์เคลื่อน) แต้มจุดขาวสามจุด ใส่ทริเทียมเรืองแสง ซองกระสุนเรียงเดี่ยว ด้ามบางพิเศษ (จะเปลี่ยนใส่ด้ามมาตรฐาน ของ 1911 ก็ได้) ห้ามไกด้านเดียว (นายสมิธ ไม่ชอบห้ามไกสองด้าน เพราะเกะกะและเคยเห็นหลุดขณะยิง) ไกทึบ น้ำหนักไกสี่ปอนด์ครึ่ง (ไม่ได้คิดจะใช้ยิงเป้า) ปาดเก็บเหลี่ยมมุม แต่ไม่ถึงกับโค้งมนระดับ "เมลท์ดาวน์" (melt down : เริ่มหลอมละลาย) นอกจากนี้แล้ว เหมือน "พรีเมียร์ ทู" คือ เรือนสปริงนกสับแบบตรง แกะลายกันลื่นละเอียดทั้งหน้าและหลังด้าม เพิ่มลายกันลื่นบนลำเลื่อนด้านหน้า นกสับโปร่งลดน้ำหนัก หลังอ่อนยาว มีร่อง รับนกในตำแหน่งง้างพร้อมยิง

กระสุนในรังเพลิง ส่วนทางลาด ไม่ลึกเกินไป รักษาความแข็งแรงไว้เต็มที่ คันค้างลำเลื่อน และบูชปากลำกล้อง สลักเลขตรงกัน โครงด้ามเมื่อถอดแก้มประกับ

ในบทความที่ "สินธุ วิสุทธิ" แปลไว้ กล่าวถึงความแน่นของลำเลื่อน ลองตัวจริง แล้วไม่แน่นปั๋งอย่างนั้นนะครับ คือดึงลำเลื่อนได้ไม่หนักแรง มีความรู้สึกหนืดในจังหวะแรกก่อนลำเลื่อนเดินคล้ายๆกับปืนสมิธฯ 845 รุ่นแต่งพิเศษ (ถ้าจะว่ากันถึงเรื่องแน่นละก็ STI ที่ลงภาพใน "ปืนพาดแท่น" ฉบับ 314 นั่นแหละครับ แน่นที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา) แต่ถ้าถอดสปริงลำเลื่อนออกแล้ว โครงปืนกับลำเลื่อนเข้ากันสนิทเป๊ะๆ ไม่มีขยับซ้าย-ขวา สูง-ต่ำ เลื่อนได้แต่แนวหน้า-หลังเท่านั้น และไม่มีรอยขีดข่วนขัดเงาเป็นจุด คือสัมผัสเสมอกันตลอดแนวครับ ปืนแต่งพิเศษช่างฝีมือดีจริงต้องได้อย่างนี้ ในตำแหน่ง ขัดกลอนลองกดส่วนรังเพลิงจะไม่ขยับให้รู้สึกได้แม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกในการจับด้ามดีมาก ด้ามของทีอาร์ บางกว่า 1911 มาตรฐานอยู่ประมาณสองมิลลิเมตรนะครับ และเป็นแบบหลังตรง ลายกันลื่นหน้าด้าม หลังด้ามให้ความรู้สึกดีมาก น้ำหนักไกชั่งได้สี่ปอนด์ครึ่งตามสเป็กพอดี ไกคมไม่มีเดิน

กระสุนในตำแหน่ง ก่อนเข้ารังเพลิง ลักษณะมุมเงยของกระสุน ที่ลวดชี้คือ ขาเตะปลอก ชิ้นส่วนปืน เมื่อถอดทำความสะอาด

สำหรับการยิงทดสอบ เนื่องจากผมต้องออกต่างจังหวัดในวันที่ทีมงานนัดพบพร้อมกัน จึงขอทดสอบแยกเดี่ยวที่สนาม ร.ด. ใกล้ๆ ตลาดปืนนี่แหละครับ คุณนที อุปถัมภ์ จากห้างฯ ปืนประโยชน์นำปืนมาให้ถึงสนามและอยู่ร่วมทดสอบด้วย แม้ว่าจะขนแท่นพาดมาพร้อมแต่สำหรับปืน "สายฟ้าฟาด" กระบอกนี้ โรงงานตั้งใจจะให้เป็นปืน ต่อสู้ที่ไว้ใจได้สูงสุด (ข้อกำหนดของคลินท์ สมิธ : ห้าวันพันห้าร้อยนัด ห้ามติดขัด ไม่ว่ารูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น) จึงทดสอบแบบยืนยิงตลอด ไม่ว่าจะตั้งปืนตรงธรรมดา เอียงปืน ซ้าย-ขวา หรือยิงแบบ "บาดเจ็บ" ไม่เหยียดแขนตึง และไม่กำด้าม เพียงใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขวาบีบหลังอ่อนและเหนี่ยวไก มือซ้ายช่วยจับไม่ให้ปืนหล่นครับ การยิงลักษณะที่ ไม่ช่วยยันปืนนี้ ถ้าลำเลื่อนฝืดหน่อยปืนจะขัดข้องเนื่องจากตัวปืนถอยไปด้วยกัน เรื่องการทำงานของปืนเรียบร้อยทุกประการครับ กระสุนหัวทองแดงหัวตะกั่วหัวกลมหัวเหลี่ยม ยิงได้ไม่มีปัญหาด้านความแม่นยำ ระยะ 15 เมตรนี่ ตั้งใจยิงรับรองว่ารูเดียวสบายมากครับ ศูนย์จี้กลางเป้าพอดีทำให้เล็งเป้าวงดำยากหน่อย


นที อุปถัมภ์ ชั่งน้ำหนักไก
ดร.ผิศวร ยิงธรรมดาเข้ารูเดียวหมด ทดลองตะแคงปืนยิงทั้งซ้าย-ขวาไม่มีขัดข้อง และกลุ่มกระสุนเมื่อยิงแบบตั้งปืนตรงกับ ตะแคงปืนยิงพลิกไปมา

การถอดทำความสะอาดหลังยิงเหมือนปืน 1911 ทั่วไปครับ ถอดซองกระสุน ดึงลำเลื่อนตรวจรังเพลิงให้แน่ใจว่าไม่มีกระสุนตกค้าง กดปลอกปลายสปริงลำเลื่อนเข้าแล้ว เบี่ยงบูชปากลำกล้องไปทางขวาของปืน ผ่อนแรงสปริงเลื่อนลำเลื่อนให้ช่องถอดลำเลื่อน ตรงตำแหน่งกับแกนคันค้างลำเลื่อนผลักแกนคันค้างจากขวามาซ้าย เลื่อนลำเลื่อนทั้งชุด ออกด้านหน้า สังเกตได้ว่าปืนกระบอกนี้ไม่มีชิ้นส่วนภายในที่เป็นยางหรือพลาสติก (เช่น ยางรองปลายแกนสปริง) ให้ต้องเปลี่ยนตามอายุนะครับ ในการประกอบกลับ นายห้างฯ นทีใช้ วิธีคลายสปริงล็อกคันค้างอีกตัว โดยถอดห้ามไกออกด้วย มีสปริงตัวเล็กพร้อมแกนสปริง อยู่ในหลอดหน้าห้ามไกที่จะหลุดออกมาได้นะครับ หลังจากประกอบลำกล้อง ลำเลื่อน บูช สปริงลำเลื่อนเข้าที่ ใส่สลักคันค้างเสร็จค่อยเอาสปริงตัวเล็กกับแกนสปริงใส่กลับเข้าในหลอดนี้ ปลายแกนสปริงด้านหน้าจะเป็นตัวคุมคันค้างลำเลื่อน และปลายที่ยื่นด้านหลังคุมห้ามไก เมื่อใส่สปริงเข้าในหลอดแล้วใช้แท่งพลาสติกเล็กๆ (เช่น หลอดที่ติดมากับสเปรย์น้ำมัน) กดแกนสปริงด้านหลังให้หลบเพื่อใส่ห้ามไกเข้าที่ ประกอบแบบนี้ลดโอกาสที่คันค้าง ลำเลื่อนจะเป็นรอยครับ

ผอ.สุวิทย์ เล็งจี้เป้าซ้าย แล้วเปลี่ยนมาเล็งนั่งแท่นเป้าขวา
ซ้าย : นที อุปถัมภ์ งานนี้โดนบังคับยืนยิง กลาง : บก.ตระกูล สุขมั่งมี กับกลุ่มทดสอบ ขวา : เป้า IPSC ของนที และ บก.ตระกูล

ผลสรุปสำหรับ "ปืนสายฟ้าฟาด" ทีอาร์ สเปเชียล เยี่ยมครับ แม้ว่าจุดประสงค์ หลักของการสร้างปืนกระบอกนี้เพื่อเป็นปืนต่อสู้ไม่ใช่ให้ยิงได้แม่นที่สุด แต่เรื่องแม่นก็ ยังเหลือเฟือครับ ใช้ล่าถ้วยอาจจะเสียเปรียบบ้างที่ศูนย์ปรับไม่ได้ต้องใช้เล็งเผื่อ และใน ด้านของการเป็นปืนต่อสู้ป้องกันตัวที่ทำงานเรียบร้อยไว้ใจได้เต็มที่นั้น ตรงตามจุดประสงค์ ครับ ผมอยากจะเรียกว่า "ไม่มีที่ติ" จริงๆ ห้างฯ ปืนประโยชน์สั่งปืนรุ่นสายฟ้าฟาดนี้ เข้ามาได้เพียงสองกระบอกเป็นปืนลูกค้าจองหมด ไม่เหลือขายครับ กระบอกที่ได้มา ทดสอบเป็นหมายเลข TR 0702 หรือกระบอกที่เจ็ดร้อยกว่าของชุด TR ทางห้างฯ ไม่ยืนยันว่าจะมีเข้ามาอีกหรือไม่ สนใจโทรศัพท์สอบถามได้ที่ ห้างฯ ปืนประโยชน์ ครับ โทร. 221-3350 เป็นร้านแรกตึกแรก ของถนนอุณากรรณ เมื่อมาจากเสาชิงช้าจะอยู่ซ้ายมือ ขออภัยแทนห้างฯที่ไม่มีปืนตัวจริงให้ดูแล้วนะครับ.

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 316 กุมภาพันธ์ 2544 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com