เจ้าแมวป่าสเตนเลสส์ตัวจิ๋ว ผิวนวลดุจสายหมอกจากเวหา

ถ้าหากเราจะขอให้ท่านผู้รู้เกี่ยวกับอาวุธปืนลองเอ่ยชื่อปืนหรือบริษัทผู้ผลิต อาวุธปืนที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นท่านหนึ่งท่านใด ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า ผู้ฟังจะต้อง ได้ยินชื่อปืน "เบเร็ตต้า" รวมอยู่ด้วย และเชื่อแน่อีกเหมือนกันว่าคงไม่มีใครไม่เห็น ด้วย แม้จะมีอาวุธปืนชั้นดี เป็นที่นิยมกันอยู่มากมายหลายยี่ห้อออกวางจำหน่ายใน ท้องตลาดก็ตาม

ภาพด้านซ้ายของปืนโมเดล 21A บ็อบแค็ท อิน็อกซ์ พร้อมกับกุญแจล็อกจากโรงงาน

เหตุผลก็คือ เบเร็ตต้า เป็นบริษัทผลิตอาวุธปืนที่มีชื่อก้องโลก โดยเฉพาะปืนสั้นออโต ขนาด 9 มม. ที่กองทัพสหรัฐอเมริการับเข้าประจำการแทนโคลท์ 1911 ขนาด .45 ออโต ซึ่งทำชื่อให้เบเร็ตต้ามากจนชื่อนี้ลือกระฉ่อนทั่วไปดังที่เราชาวปืนได้ยินจนชินหูไปแล้ว ส่วน ปืนยาวก็มีชื่อทางปืนลูกซองยิงเป้าบิน และลูกซองแบบกึ่งอัตโนมัติสำหรับล่าสัตว์และต่อสู้ป้องกันตัว นอกจากนี้เบเร็ตต้ายังทำ ปืนสั้นออโตขนาดจิ๋ว ใช้กระสุนตั้งแต่ ขนาด .22 แอลอาร์ หรือ 6.35 มม. ไปจนถึงขนาด .380 เอซีพีในปัจจุบัน แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดาปืนขนาดจิ๋วด้วยกัน คงหนี ไม่พ้นขนาด .22 หรือขนาดลูกกรด ส่วนขนาด 6.35 กระสุนมีราคาแพงและหายาก สู้ขนาดลูกกรด .22 ไม่ได้เพราะกระสุนหาง่าย ราคาถูก จึงยิงซ้อมมือได้บ่อยๆ ในยามว่าง อำนาจกระสุนไม่เลวเลย หากยิงสั่งได้นะครับ

อักษรบนด้านซ้ายลำเลื่อนบอกรุ่นปืน ขนาดกระสุน และผลิตในสหรัฐอเมริกา ศูนย์หน้าและศูนย์หลังเล็กและเตี้ย พออาศัยเล็งได้ ลำเลื่อนเหนือลำกล้องเปิดโล่ง ท้ายลำกล้องจึงกระดกขึ้นได้

พูดถึงปืนขนาดจิ๋วกันจริงๆ มีคนนิยมใช้กันมากนะครับ แต่ไม่ใคร่จะมีใครกล่าวถึงกันนัก และผู้ที่พกพาเป็นประจำก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตนมีปืนประเภทนี้ เข้าทำนองเสือ ซ่อนเล็บนั่นแหละครับ อีกอย่างหนึ่งก็ถือว่าเป็นปืนสำหรับผู้หญิง แต่ความจริงปืนจำพวกนี้ ส่วนมากผู้หญิงใช้ลำบาก ถ้าไม่ฝึกหัดใช้ปืนจนชำนาญเท่าที่ผู้เขียนทราบ ชายชาตรีนักนิยมปืนเห็นมีปืนจิ๋วอย่างนี้แทบทั้งนั้นแหละครับ

ปืนขนาดจิ๋วที่ผู้เขียนกล่าวถึงนี้ หมายถึงปืนสั้นที่มีขนาดเล็ก แต่มีลักษณะรูปร่างและกลไกปฏิบัติการแบบปืนขนาดใหญ่ เต็มมาตรฐาน คล้ายๆกับปืนขนาดใหญ่ย่อส่วนลงไปนะครับ ไม่ได้หมายถึงปืนจิ๋ว ประเภท "เดอร์ริงเจอร์" หรือปืนที่ทำมาเพื่อให้มีขนาดเล็กจิ๋วเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเป็นปืนแบบออโต และใช้กระสุนขนาด 6.35 มม. (.25 เอซีพี) เป็นพื้น ต่อมาก็ทำออกมาให้ใช้กระสุนลูกกรด .22 แอลอาร์บ้างเหมือนกัน ต่อมาในระยะหลังๆ ผู้ใช้ปืนนิยมขนาด .22 เสียมากกว่า เพราะเหตุผลดังที่ผู้เขียนได้กล่าวมาแล้ว และกระสุนขนาดลูกกรด .22 ชนิดแรงสูงรุ่นใหม่ มีอานุภาพสูงขึ้นมาก

ภาพนี้ง้างนกแล้วเข้าเซฟไว้ แบบค็อกแอนด์ล็อก ลำเลื่อนก็ถูกล็อกไว้ด้วย สลักแกนยึดส่วนหน้าของลำกล้อง ดูแน่นหนากว่าที่ทำในอิตาลี ปากกระบอกหนาแข็งแรง

ในบรรดาปืนสั้นออโตขนาดจิ๋วที่ใช้กระสุนขนาด .22 แอลอาร์ ซึ่งดูเหมือนจะมีลักษณะเด่นๆ ทำให้คนเลือกใช้กันมาก เท่าที่ผู้เขียนนึกออก คงจะมีอยู่เพียง 2 ยี่ห้อ ในปัจจุบัน คือ วอลเธอร์ทีพีเอช .22 และเบเร็ตต้า โมเดล 21A เพราะมีรูปทรงสะดุดตา น่าใช้ และที่สำคัญยิงแบบดับเบิล/ซิงเกิลแอ๊คชั่นได้เช่นเดียวกับปืนขนาดเต็มมาตรฐานครับ ลักษณะประจำตัวอย่างหนึ่งของปืนสั้นออโตขนาดเล็กจิ๋ว ก็คือ ดึงลำเลื่อน ขึ้นลำป้อนกระสุนนัดแรกจากแม็กกาซีนได้ลำบากเหมือนๆกันทั้งนั้น จึงถือเป็นปัญหา สำคัญสำหรับสุภาพสตรีที่มีรูปร่างผอมบาง มือค่อนข้างเล็กไม่น้อยเลยนะครับ ซึ่งตรงจุด สำคัญจุดนี้ ทำให้ปืนจิ๋วของเบเร็ตต้าเด่นผงาดขึ้นมา ดูว่าเหนือชั้นกว่าปืนยี่ห้ออื่นๆ ใน ประเภทเดียวกัน เพราะปืนเบเร็ตต้า โมเดล 21A สามารถดีดลำกล้องยกท้ายรังเพลิงขึ้นมา แล้วบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงโดยตรงด้วยมือได้ โดยไม่ต้องดึงลำเลื่อนเลยครับ ซึ่งทำให้ปัญหาเรื่องดึงลำเลื่อนขึ้นลำ แก้ไขหมดไปได้โดยสิ้นเชิง และทำให้ปืนรุ่นนี้เหมาะสำหรับสุภาพสตรีใช้โดยแท้จริงครับ

ปุ่มปลดแม็กฯ อยู่เหนือสกรูด้ามตัวล่าง ทำสไตล์แบบยุโรป ไม่แกะลายเม็ด เมื่อจะยิงบรรจุกระสุนในแม็กฯ แล้วเสียบเข้าไปในช่องโครงด้ามตามปกติ ถ้าไม่รีบร้อนควรกดปุ่มปลดแม็กฯ ไว้จนเข้าที่ เพื่อป้องกันแง่ปุ่มล็อกขูดขีดตัวแม็กฯ

เมื่อบริษัทเบเร็ตต้า ยูเอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทแม่ในอิตาลี ได้เริ่ม ผลิตอาวุธปืนในปี 1978 โดยเฉพาะได้ผลิตปืนเบเร็ตต้า โมเดล 92 เอฟ ขนาด 9 มม. ให้กองทัพสหรัฐอเมริกาตามสัญญาดังที่ทราบ กันแล้ว ยังได้ผลิตปืนบางรุ่นที่ได้รับความนิยมออกสู่ตลาด รวมทั้งปืนโมเดล 92 เอฟเอส เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางด้านผู้รักษากฎหมายและประชาชนพร้อมกันไปด้วย ปืนสั้นออโตขนาดจิ๋วชนิดที่ปลดท้ายลำกล้อง กระดกขึ้นมาได้ของเบเร็ตต้าก็ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ปืนเช่นกัน จึงได้ผลิตออกมาจำหน่าย ไปพร้อมๆกันกับโรงงานในอิตาลี แต่เนื่องจาก ชาวอเมริกันนิยมปืนที่ทำด้วยเหล็กสเตนเลสส์ เราจึงได้เห็นเบเร็ตต้า โมเดล 21A บ็อบแค็ท .22 แอลอาร์ ทำด้วยสเตนเลสส์ ออกสู่ตลาด เมื่อเร็วๆนี้และเป็นปืนที่ห้างฯปืนธงได้สั่งนำเข้ามา พร้อมกับส่งให้นิตยสารอาวุธปืนทำการ ทดสอบและประเมินผลในฉบับประจำเดือนนี้

ปืนเบเร็ตต้า โมเดล 21A บ็อบแค็ท รุ่นนี้ก็เหมือนปืนสั้นทำออกมาในยุคนี้ทั่วไป คือ บรรจุมาในกล่องพลาสติกและมีกุญแจล็อก ปืนให้มาพร้อมเสร็จสรรพ รูปร่างลักษณะทั่วไป ก็เหมือนกับรุ่นรมดำแบบเก่าที่ทำในอิตาลี แต่รุ่นใหม่ทำในโรงงานที่อเมริกาทั้งกระบอกนี้ ทำด้วยเหล็กสเตนเลสส์ จึงมีคำว่า "INOX" ต่อท้ายชื่อรุ่น ซึ่งหมายถึงเป็นรุ่นเหล็กสเตนเลสส์ แต่ไม่ได้หมายถึงเฉพาะรุ่นบ็อบแค็ท หรือแมวป่ารุ่นนี้ที่ใช้กระสุนลูกกรด .22 รุ่นเดียว หากยังรวมไปถึงโมเดล 3032 ทอมแค็ท ขนาด .32 ออโต และโมเดล 850 เจ็ทไฟร์ ขนาด .25 เอซีพี ซึ่งเป็นปืนซิงเกิลแอ๊คชั่น ด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าบ็อบแค็ท อิน็อกซ์ กระบอกนี้ก็ไม่ใช่ทำด้วยเหล็กสเตนเลสส์ทั้งกระบอก เพราะโครงปืนเป็นอะลูมินั่มชุบขาวสีใกล้เคียงกับลำเลื่อน/ลำกล้องสเตนเลสส์มากที่สุด อีกทั้งเครื่องลั่นไก โกร่งไก ปุ่มหรือคันบริหารกลไกต่างๆ และตัวแม็กฯยังเป็น เหล็กรมดำอีกด้วย ทำให้ปืนมีสีสันตัดกัน สวยงามไม่น้อยเลยครับ ผิวสเตนเลสส์และอะลูมินั่มผสมชุบขาว ไม่ได้ปัดเงาวาววับ แต่ก็ไม่เชิงว่าด้านๆเสียทีเดียว จึงทำให้แลดูขาวนวลลงตัวได้พอเหมาะ


โยกคันปลดท้ายลำกล้องให้กระดกขึ้นมา แล้วหยิบกระสุนใส่รังเพลิง ดังภาพ

ต่อจุดที่แปลกตาอยู่จุดหนึ่งก็คือ โกร่งไกเป็นเหล็กรมดำ แยกตัวออกเป็นอีกชิ้นหนึ่ง ต่างหาก ซึ่งสอดประสานตัวเข้ากับโครงปืนได้อย่างแนบเนียน ถ้าเป็นเหล็กสเตนเลสส์ก็คง มองไม่ออกและคงจะดูว่าเป็นชิ้นเดียวกันกับโครงปืน การใช้เหล็กรมดำทำโกร่งไกก็เพื่อเพิ่มความสวยงาม เพราะความจริงใช้เหล็ก สเตนเลสส์ทำก็ได้ แต่ถ้าหากจะทำโกร่งไกเป็น เนื้อเดียวกันกับโครงปืนอย่างทอมแค็ทโมเดล 3032 อิน็อกซ์ แม้จะดูกลมกลืนกันดีกว่า เมื่อคำนึงถึงความแข็งแรงกันแล้ว เหล็กกล้าย่อมดีกว่าอะลูมินั่ม ครั้นจะทำโครงปืนด้วย เหล็กสเตนเลสส์ทั้งหมดหรือชุบฮาร์ดโครม ปืนก็จะมีน้ำหนักมากเกินตัวไปเสียอีกครับ

อีกจุดหนึ่งก็คือ ปุ่มปลดแม็กฯยังเป็นแบบเก่าๆดั้งเดิม แต่ผู้เขียนคิดว่า ยังดีกว่าเป็น สลักยึดฐานแม็กฯไว้ที่ส้นด้ามตามแบบฉบับปืนจากยุโรปในสมัยก่อนนะครับ แล้วผู้เขียนยัง คิดว่า ถ้าจะให้ไปอยู่ในตำแหน่งบริเวณหลังโกร่งไกแถวๆหน้าด้ามตามแบบสมัยนิยมใน ปัจจุบันน่าจะเหมาะสมที่สุด แต่มาดูอีกทีแล้วคงไม่สะดวกนัก เพราะปืนมีขนาดเล็กอยู่แล้ว ขืนนำปุ่มปลดแม็กฯมาไว้บริเวณหลังโกร่งไก มันก็จะมาอยู่ใกล้กับคันปลดท้ายลำกล้อง เกินไป อาจทำให้การใช้งานสับสนได้โดยไม่ตั้งใจครับ

แล้วเหนี่ยวไกยิงแบบดับเบิลแอ๊กชั่นได้เลย ภาพนี้นกสับง้างเกือบจะสับลงไปแล้ว เมื่อจะถอดปืน ก่อนอื่นให้กดปุ่มแม็กฯ เพื่อนำแม็กฯออกจากปืนเสียก่อน

ส่วนคันปลดท้ายลำกล้องให้กระดกขึ้นได้ มีรูปร่างเหมือนคันนิรภัยของปืนออโต ขนาดเล็กแถบยุโรปเป็นส่วนมาก แต่โอกาสที่จะเข้าใจผิดนั้นมีน้อย เพราะมีคันนิรภัยจริงๆ ให้เห็นอยู่ด้านบนโครงปืนตรงท้ายลำเลื่อนที่ตำแหน่งเดียวกันกับปืนแบบ 1911 นั่นแหละ ครับ สำหรับคันบริหารไกเหล่านี้ มีอยู่เฉพาะด้านซ้ายของปืนแต่เพียงด้านเดียว ส่วนด้าน ขวาพบแต่สะพานไกเป็นแท่งแบนๆ เช่นเดียวกับโมเดล 92 เอฟเอส และปืนรุ่น พี 88 ของ วอลเธอร์ครับ กล่าวโดยรวมแล้วปืนรุ่นนี้มีกลไกอำนวยให้ใช้งานสะดวกได้เกือบครบถ้วน ยกเว้นคันค้างลำเลื่อนเท่านั้นที่ไม่มีไว้ให้ แต่ถ้า หากจะมีคงเป็นสิ่งเกะกะรุงรังในการใช้งานมากกว่า หากไม่คอยนับจำนวนกระสุนที่ยิง ออกไป ก็ยิงแห้งแถมท้ายไปทุกครั้งที่ยิงก็แล้วกัน ส่วนลำเลื่อนจะเปิดค้างได้หรือไม่ได้นั้น ไม่จำเป็น เพราะปลดท้ายลำกล้องให้กระดกขึ้นมาได้ จะตรวจตราทั้งรังเพลิงและแป้นหน้า ลำเลื่อนก็ทำได้สะดวกเต็มที่ครับ

ปลดท้ายลำกล้องกระดกขึ้น ถ้ามีลูกค้างรังเพลิงให้หยิบออกแล้วผลักลำกล้องให้เอนไปข้างหน้าจนสุด ขยับลำเลื่อนถอยหลังเล็กน้อย แล้วยกขึ้นจากโครงปืน

สิ่งหนึ่งที่ดูว่าจะขาดหายไปก็คือ ไม่มีกลไกล็อกเข็มแทงชนวน หรือปิดกั้นท้าย เข็มแทงชนวนเหมือนปืนรุ่นใหม่ๆ นี่ก็อีกอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน คือถ้ามีกลไกจุดนี้ ขึ้นมามันย่อมมีขนาดเล็กตามตัว โอกาสที่มันจะทำงานติดขัด (คือไม่ทำงาน) ย่อมมีมากขึ้นกว่าในปืนที่มีขนาดโตกว่าและมีปัญหาในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน เข้ามาอีกด้วยครับ เนื่องจากปืนบ็อบแค็ท โมเดล 21A กระบอกนี้มีระบบไกแบบดับเบิล/ซิงเกิลแอ๊คชั่น แบบปกติธรรมดา คือ ถ้าลดนกไว้ก็สามารถยิงนัดแรกในจังหวะดับเบิลแอ๊คชั่น หรือง้างนก ยิงในจังหวะแอ๊คชั่นได้ แต่นัดต่อๆไปจะยิงแบบซิงเกิลแอ๊คชั่น ดังนั้นเมื่อลดนกชิดท้ายลำเลื่อนไว้ ตัวไกจึงอยู่ห่างจากโครงปืนไปข้างหน้า เหมือนๆปืนลูกโม่ดับเบิลแอ๊คชั่น ซึ่งจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความปลอดภัยก็ได้ครับ

ถอดแก้มด้ามด้วยไขควงสำหรับปืนโดยเฉพาะ ด้านซ้ายตรงปากกาชี้เป็นคันโยงระหว่างสปริงลำเลื่อนในหลอดกับแง่ด้านในของลำเลื่อน ด้านขวาคือสปริงของสะพานไก

ปฏิบัติการของโมเดล 21A บ็อบแค็ท โดยทั่วไปก็คือ ปืนออโตแบบดับเบิล/ซิงเกิล ธรรมดานี่แหละครับ แต่ที่ไม่ธรรมดาและเป็นจุดขายที่สำคัญก็คือ ท้ายลำกล้อง หรือ รังเพลิงดีดตัวขึ้นมาให้ใส่ลูกล่อเข้ารังเพลิงได้ทันที โดยไม่ต้องดึงลำเลื่อนป้อนกระสุน แล้วก็ กดท้ายลำกล้องเข้าที่ตามเดิมพร้อมยิงได้ทันที ซึ่งทำได้คล่องตัวรวดเร็ว ไม่มีจังหวะสะดุดครับ แต่ถ้าจะใช้วิธีดึงลำเลื่อนป้อนกระสุนจาก แม็กฯตามปกติก็ยังทำได้ครับ เว้นแต่จะเอากระสุนออกจากรังเพลิงโดยวิธีดึงลำเลื่อน ถอยหลังไม่ได้ ต้องปลดท้ายลำกล้องให้ดีดตัวขึ้นมาให้พ้นลำเลื่อนแล้วหยิบออกมา เพราะมีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไป คือ ขอรั้ง (เกี่ยว) ปลอกกระสุนครับ เหตุใดจึงไม่มี? หรือถ้ามีจะได้หรือไม่? มีได้ครับ และจะทำให้ดึงลำเลื่อน เอากระสุนค้างลำกล้องออกได้สะดวก แต่ความไม่สะดวกก็เกิดขึ้นตอนที่ปลดท้าย ลำกล้องให้กระดกขึ้นมันจะดีดตัวขึ้นมาไม่ได้ เพราะติดขอรั้งปลอกอยู่ คงต้องดึงลำเลื่อน ถอยห่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่สะดวกเช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการแลกเปลี่ยนครับ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เหมือนกับที่ฝรั่งเขาบอกว่า "No free lunch" ซึ่งก็ใช้ได้กับสังคมไทยใน ปัจจุบันคือเลี้ยงข้าวกลางวันฟรีๆ ถึงไม่หวัง อะไร อย่างน้อยก็เป็นการแสดงอัธยาศัยไมตรี มันเป็นสัจจธรรมครับ เหมือนสมาชิกเว็บไซต์ ท่านหนึ่ง แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Animal will do" ซึ่งเก๋ไก๋ไม่เบาเลย เอาละครับ! ดูๆ ชักจะนอกเรื่อง และ "Go big" คือไปกันใหญ่เสียแล้วละครับ

ซ้าย : ดร.เทียนชัย ผู้ยิงทดสอบ ขวา : อาจารย์วีระ ทดสอบในท่ายืนยิง

การใช้ระบบนิรภัยของโมเดล 21 A บ็อบแค็ทกระบอกนี้ หนังสือคู่มือเขียนอธิบาย ไว้ละเอียดดีมากที่สุด บางจุดเป็นเรื่องง่ายๆ พออ่านๆไปชักงงอยู่เหมือนกัน จึงขอสรุปว่า คันนิรภัยหัวแม่มือ เมื่อเข้าเซฟจะล็อกเซียร์ ล็อกลำเลื่อน ไม่ว่าลดนกหรือนกง้างอยู่ก็เข้า เซฟได้ จึงสามารถใช้ระบบค็อกแอนด์ล็อกได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้เพราะเป็นปืนแบบ ดับเบิลแอ๊คชั่นอยู่แล้ว แต่ที่สะดวกก็คือระบบนิรภัยไม่กีดกั้นการกระดกขึ้นลงของท้าย ลำกล้อง การทำงานเป็นอิสระจากกัน ความจริงแล้วเมื่อท้ายลำกล้องกระดกขึ้นมา ปืนจะมีความปลอดภัยสูงสุดครับ

การยิงทดสอบ เริ่มด้วยบรรจุกระสุนลงแม็กฯ ซึ่งทำได้สะดวกและง่ายดายมาก เพราะด้านขวาของตัวแม็กฯ มีปุ่มติดกับลิ้นแม็กฯ ให้ใช้นิ้วมือกดลิ้นแม็กฯลงไปตามช่อง ยาวๆ เจาะไว้ด้านข้าง ทำให้ไม่ต้องกดกระสุนลงไปในแม็กฯขยับลิ้นดันสปริงลงไป ก็หยิบ กระสุนหยอดๆลงไปจนครบ 7 นัด ความจริง บรรจุได้ 8 นัดสบายๆครับ แต่ปุ่มแม็กฯจะลงไปสุดทาง และสปริงแม็กฯหดลงไปเบียดชิดกันทุกขด ไม่มีที่ว่างเลย จึงใส่แม็กฯให้เข้าที่ ตรงตำแหน่งล็อกไม่ได้ครับ หนังสือคู่มือจึงบอกไว้ว่าบรรจุได้ 7 นัด นัดที่ 8 ก็หยิบใส่รังเพลิงโดยตรง ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งหมายที่ออกแบบทำขึ้นมาครับ

เป้าซ้าย : เป็นของอาจารย์วีระ เป้าขวา : เป็นของ ดร.เทียนชัย

เนื่องจากเป็นปืนขนาดจิ๋ว ลำกล้องยาวเพียง 2.4 นิ้ว คณะผู้ทดสอบจึงยืนยิงห่าง จากเป้าราวๆ 10 เมตร ผู้เขียนออกไปยิงจับปืน 2 มือ ความจริงยิงมือเดียวก็สบาย อยู่แล้วครับ กระสุนขนาด .22 ไม่ได้มีแรงรีคอยล์อะไรนักหนา ถึงตัวปืนจะมีน้ำหนักเพียง 12 ออนซ์ก็เถอะครับ แต่เรามุ่งทดสอบสมรรถนะของปืนเป็นหลักใหญ่ พยายามไม่ให้ความสามารถของผู้ยิงไปบดบังความสามารถของปืนครับ แต่ที่จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ สายตาคนยิงกับประสาทการสั่งงานเหนี่ยวไก ดังนั้น แม้จะใช้เครื่องจับยิง ถ้าตาบอดสองข้างก็ทำการทดสอบไม่ได้อยู่ดีแหละครับ

เมื่อดูผลจากเป้าวงกลมดำตาวัว (เรียกตามฝรั่ง หากเรียกตามวิถีชีวิตคนไทย ก็อาจเรียกว่าตาควาย) นอกจากจะขำกลิ้งแล้ว ก็ไม่น่าจะผิดตรงไหนแต่ไม่ว่าจะยิงเป้าวงกลมตาอะไรหรือผู้ทดสอบท่านใดเบเร็ตต้า โมเดล 21A บ็อบแค็ท อิน็อกซ์ ก็ยิงได้แม่นมาก ตามประเภทของมันปฏิบัติการเรียบร้อยดี ไม่มีติดขัดเลย หากจะมีอะไรขลุกขลัก ก็โทษกระสุนอย่างเดียวครับ แต่ผู้เขียนเคยขอให้ อ.วีระ นำกระสุน .22 ชอร์ตมาเอง ลองยิงดูกับปืนรุ่นนี้แบบรมดำของผู้ที่สนิทคุ้นเคยกันดี ปรากฏว่าทำงานเรียบร้อยดีครับ เสียอยู่อย่างที่ว่าบรรจุลงในแม็กฯแล้ว ขัดลำ เพราะฉะนั้นกระสุนลูกกรด .22 แอลอาร์ ไม่ว่าหัวดำหรือหัวแดง (หัวชุบทองแดงน่ะครับ) ก็ใช้ได้ทั้งนั้น เรียกว่าไม่เลือกลูก ภาษาชาวปืนท่านว่ายังงั้นครับ

ท่ายิงสองมือและเป้าของคุณหมอจันทร์ ลองพิจารณาสมรรถนะของปืนตามชอบใจได้เลยครับ

สรุปสั้นๆและฟังง่ายๆ คือในบรรดาปืนสั้นออโตขนาดจิ๋วใช้กระสุน .22 แอลอาร์ เพื่อพกซุกซ่อนหรือเป็นปืนสำรองแล้ว เบเร็ตต้า โมเดล 21A บ็อบแค็ท อิน็อกซ์ ไม่เป็นรอง ยี่ห้อใดๆ ไม่ว่าด้านไหนๆ ยิ่งชิ้นส่วนทำด้วยสเตนเลสส์ด้วยแล้ว ทำให้ทนเหงื่อทนความชื้น เพิ่มขึ้นอีกครับ ส่วนรูปร่างไม่ถึงกับสวยเฉียบ แต่ก็มีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ต้องตาใครตามัน ถูกตาก็ตาเป็นมัน ไม่ถูกตาก็เมินไป ของอย่าง นี้เป็นเรื่องความชอบว่ากันไม่ได้ครับ แต่ถ้ายังครึ่งๆกลางๆ ก็ขอเชิญแวะไปที่ห้างฯปืนธง แล้วตัดสินใจฟันธงได้ว่ามันถูกใจหรือไม่ ร้านนี้ผู้ใดเคยเข้าไปแล้วเชื่อว่าทุกท่าน คงอยากเข้าเป็นครั้งที่สอง.

ผู้ส่งทดสอบ เบเร็ตต้า โมเดล 21A : จาก ห้างฯ ปืนธง
โทร.
222-7784

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 313 ตุลาคม 2543 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com