ปืนไรเฟิลเรมิงตัน 40 XB BR KS

ถ้าจะถามว่าปืนไรเฟิลระดับมาตรฐานจากโรงงานปืนอะไรที่ยิงได้แม่นยำที่สุด นักเล่นปืนทั้งหลายคงจะต้องตอบตรงกันว่า ก็เห็นทีว่าจะต้องยกให้เรมิงตัน 40-X เป็นอันดับหนึ่งกันทุกคน เพราะตามปกติปืนเรมิงตันรุ่นทั่วๆไปก็จัดเป็นปืนไรเฟิลที่มี ความแม่นยำสูงมากอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นปืนโมเดล 40-X ก็จะถูกผลิตขึ้นด้วยความประณีตเป็นพิเศษเหนือกว่าปืนธรรมดา

ภาพเต็มของเรมิงตัน 40-XB BR KS

ปืน 40-X จะถูกผลิตจากแผนกคัสตอมช็อปของเรมิงตันเอง ขั้นตอนจะเริ่มจากช่างฝีมือที่ได้รับการโปรโมท จากการ เป็นช่างในสายการผลิตปืนธรรมดาขึ้นไปอยู่ในแผนกนี้ จะไปคัดเลือกโครงปืนของปืน โมเดล 700 ที่ดีที่สุดออกมาจากสายการผลิต ตามปกติของเรมิงตัน แล้วนำมาประกอบลำกล้องที่ผลิตจากแผนกคัสตอมเอง โดยจะคว้านรังเพลิงให้เล็กที่สุดเท่าที่มาตรฐานของสถาบันควบคุมการผลิตอาวุธปืน และกระสุนปืนในทางกีฬาหรือ SAAMI ( Sporting Arms and Ammunition Manufacturers Institute) อนุญาตเอาไว้ จากนั้นจึงนำมาใส่เครื่องลั่นไกที่ปรับแต่งแล้ว แล้วก็ประกอบเข้าไปกับสต๊อกอย่างประณีตเพื่อให้ได้ความแม่นยำสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตำนานของ 40-X เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 คือถือได้ว่าเกิดก่อนปืนโมเดล 700 เสียอีก ปืนไรเฟิลชนวนกลางที่ใช้เป็นรากฐานของปืน 40-X ในระยะเริ่มแรกก็คือ ปืนเรมิงตัน โมเดล 721 กับ 722 หลังจาก ที่ปืนซีรีส์ 72 ได้ปิดสายการผลิตลงไปในปี ค.ศ. 1962 โดยเปลี่ยนมาเป็นโมเดล 700 เช่นเดียวกับปืนไรเฟิลของเรมิงตันในทุกวันนี้ ปืน 40-X ก็เลยใช้โครงปืนของโมเดล 700 ตามไปด้วย

ลำกล้องสเตนเลสส์ อวบหนา เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.97 นิ้ว (31/33 นิ้ว) รางปืนแผ่นกว้างลอยตัวจากโครงปืน ใช้แผ่นกระดาษรูดผ่านได้ตลอด

ปืน 40-X แบ่งเป็นรุ่นภายในได้อีกหลายต่อหลายรุ่น อย่างเช่น 40-XC National Match Rifle จะหมายถึงปืนไรเฟิลสำหรับการแข่งในระบบ UIT (ชนวนกลาง) ซึ่งปืนในรุ่น 40-XC นี้จะทำเฉพาะขนาด .308 วินฯ แต่เพียงขนาดเดียว อ้อ ! แล้วปืนไรเฟิลของเรมิงตันถ้าเป็นปืนในรุ่น 40-X เรมิงตันจะไม่เรียกขนาดกระสุนว่า .308 วินฯ แต่จะเรียกคล้ายๆแบบทหารว่าเป็นขนาด 7.62 NATO ปืน 40-XC ในระยะแรกจะทำความยาวลำกล้องเป็น 23.25 นิ้ว และยืดขึ้นมาเป็น 24 นิ้วในทุกวันนี้ พอมาถึงปี ค.ศ. 1988 ซึ่งเป็นยุคพลาสติกครองโลก เรมิงตันก็ได้ออกปืนรุ่น 40-XC National Match Rifle KS ซึ่งเป็น 40-XC ที่สต๊อกเป็นวัสดุสังเคราะห์ประเภท KS หรือ Kevlar Stock

วางลำกล้องลอยตัวจากโครงปืน ใช้แผ่นกระดาษรูดผ่านได้ตลอด ส้นด้านล่างของผ่านท้ายเอียงน้อยกว่าปืนทั่วไป ช่วยเวลาที่กระสุนลั่นออกไป ปืนจะได้ไม่เงยสูงขึ้นไปมากนัก

เรมิงตัน 40-X ที่แพร่หลายในบ้านเรามากที่สุดก็คือ 40-XB Rangemaster และ 40-XB Rangemaster KS ซึ่งไม่ใช่ปืนที่สร้างขึ้นมา สำหรับการแข่งขันในประเภทไหนทั้งสิ้น แต่พอจะเรียกได้ว่าเป็นไรเฟิลวาร์มินท์แบบ "มีระดับ" คือเป็น 40-X แบบลำกล้องยาวที่สุดคือยาวถึง 27.25 นิ้ว เข้าใจว่าในตอนนั้นร้านปืนบ้านเราคงยังไม่แน่ใจว่า วงการไรเฟิลพาดแท่นในบ้านเราจะอายุยืนขนาดไหน ก็เลยสั่งปืนรุ่นนี้มาก่อน ยังไงๆก็ยังพอจะขายเป็นปืนเที่ยวป่าได้

ยางรองพานท้ายไม่หนาเท่าไร เพราะปืนหนักอยู่แล้ว ยังมีคันห้ามไกตามปกติ แต่ถ้าสั่งให้ใส่ไก 2 ออนซ์ จะไม่มีห้ามไก

สำหรับปืน 40-XB BR KS กระบอกที่เรานำมาทดสอบในฉบับนี้เป็น 40-X สำหรับ ใช้ลงแข่งขันในระบบพาดแท่นโดยเฉพาะ สต๊อกเป็นแบบท้องแบนเรียบกว้าง 3 นิ้ว ถูกต้องตามกติกาพอดี การที่มีตัวอักษร KS ต่อท้ายก็หมายความว่าเป็นปืนที่ใช้สต๊อกเป็น เคฟลาร์แทนไม้นั่นเอง คือตอนที่ 40-XB BR ออกมาใหม่ๆ เมื่อปี ค.ศ. 1969 นั้นเขายัง ใช้สต๊อกเป็นไม้วอลนัทซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เฉพาะตัวปืนไม่รวมกล้องก็ปาเข้าไป 12 ปอนด์ เหลือน้ำหนักที่จะเพิ่มให้ติดกล้องได้อีกเพียง 1.5 ปอนด์ก็จะทะลุกติกาของปืนพาดแท่นรุ่นหนัก

ปืนระบบซิงเกิลแอ๊คชั่น เอากระสุนวางลงไปเฉยๆ พอดันลูกเลื่อนก็จะเข้ารังเพลิงไปได้เอง ท้องเรียบสนิท พาดปืนลงไปแล้วไม่กลิ้งไปกลิ้งมา

40-XB BR ในยุคแรกทำลำกล้องสองแบบคือ 20 นิ้วกับ 26 นิ้ว และมีกระสุนให้เลือกตั้งแต่ .22 BR, .222 Rem, .223 Rem, .243 Win, 6 mm.BR, 6x47 มม. แล้วก็ .308 วินฯ ต่อมาในปี ค.ศ. 1987 เรมิงตันเริ่มนำสต๊อกแบบ KS เข้า มาใช้ และ 40-XB BR รุ่นพานท้ายไม้ก็ได้ ปิดสายการผลิตลงไปในปี ค.ศ. 1990

เรมิงตัน 40-XB BR KS กระบอกที่เราได้รับมาทดสอบในฉบับนี้ใช้สต๊อกของแม็กมินแลน สีเขียวสดตามแบบฉบับของเรมิงตัน ที่เรียกว่า Remington green สต๊อกแบบนี้เป็นสต๊อกน้ำหนักเบามาก เนื่องจากใช้โครงสร้างแบบโมโนค็อก ใช้ผิวแข็งที่อยู่ด้านนอกเป็นโครงคล้ายๆ กับก้ามปู ไปร้านซีฟู๊ดเที่ยวหน้าตอนสั่งปูทะเลลองสังเกตก้ามปูแข็งๆ ดูซิครับ เราจะเห็นว่ามันมีโครงแข็งๆ เฉพาะผิวนอกเท่านั้น พานท้ายแบบนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าพานท้ายแบบมีโครงกระดูก ของเรมิงตันที่ใช้ในปืนแบบวาร์มินท์ ซึ่งจะมีโครงอะลูมินั่มเป็นแชสซีอยู่ข้างใน

ปุ่มสำหรับปลดลูกเลื่อน
อยู่ในตำแหน่งเดียวกับปืนเรมิงตันมาตรฐาน
หน้าลูกเลื่อนก็เหมือนกับ
ปืนมาตรฐาน

สต๊อกแบบมีโครงอะลูมินั่มอยู่ข้างในจะเป็นสต๊อกที่แข็งแรงมาก แต่มีน้ำหนักพอๆ กับสต๊อกไม้ เพราะต้องแบกน้ำหนักโครงโลหะที่อยู่ข้างใน ก็เลยนิยมใช้กันอยู่เฉพาะในปืนวาร์มินท์กับปืนแท็กทิคอล ประเภทปืนสไนเปอร์อะไรทำนองนั้น แต่สำหรับปืนแข่งพาดแท่น หรือปืนเบ็นช์เรสต์โดยเฉพาะจะชอบสต๊อกน้ำหนักเบามากกว่า เพราะทำให้ไป เพิ่มน้ำหนักกันที่ตัวลำกล้องได้อย่างเต็มที่ สำหรับปืนแข่งขันนั้นลำกล้องยิ่งหนาขึ้น ไวเบรชั่นก็จะยิ่งต่ำลงทำให้ได้ความแม่นยำมากขึ้น อย่างเช่น 40-XB BR KS กระบอกที่ทดสอบนี้ ปากลำกล้องวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้เกือบหนึ่งนิ้ว จิ้มเครื่องคิดเลขออกมาเป็นน้ำหนักเฉพาะลำกล้องได้ประมาณ 2.6 กก. พอพาดลงไปบนแท่นแล้วสมดุลจะอยู่เลย โกร่งไกออกไปประมาณ 4 นิ้วซึ่งถือได้ว่ากำลังดี

โครงปืนด้านล่างเห็นเนื้อเหล็กเต็มๆ
รีคอลย์ลักก์ก็เหมือนกับเรมิงตันกระบอกอื่นๆ
ชุดลั่นไก ต่างจากเรมิงตันทั่วไป ที่ชี้คือ สกรูปรับน้ำหนักไก ส่วนอีกตัวหนึ่ง เป็นทริกเกอร์สต็อป

ม.ฮะกีมี สั่งเรมิงตัน 40-XB เข้ามาเที่ยวนี้ 5 กระบอก เป็น 40-XB BR KS สีเขียวจำนวน 3 กระบอกและ 40-XB BR รุ่นเรนจ์มาสเตอร์ลำกล้องยาว 27.25 นิ้ว กับ 40-XC KS อย่างละหนึ่งกระบอก สำหรับปืนรุ่น 40-XB BR KS ชุดนี้ถือได้ว่าเป็นปืนที่ทำลายสถิติขายดีที่สุดของ ม.ฮะกีมี อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการทำลายสถิติของร้านปืนทั้งหมด ในย่านหลังวังเลยก็ว่าได้ เนื่องจากปืนทั้งหมดสั่งมาขายโดยที่ไม่มีลูกค้าสั่งจองเอาไว้ก่อน แล้วสามารถขายได้หมดภายในเวลาครึ่งชั่วโมงทั้งๆ ที่ไม่มีลูกค้าคนไหนทราบมาก่อนว่าจะมีการสั่งปืนรุ่นนี้เข้ามา

ระบบฐานกล้อง ก็คงเหมือนกับเรมิงตันธรรมดา ติดกล้องลิวโพลด์ BR-24 แหวนรัดกล้องลิวโพลด์ QRW

คือก่อนหน้านั้นประมาณสามเดือน ทาง ม.ฮะกีมี เคยปรึกษากับผมว่าทางร้านมีแผนจะสั่งปืนไรเฟิลแข่งขันเข้ามา ผมก็แนะนำไปว่าน่าจะลองสั่งเรมิงตันรุ่น 40-XB BR KS เนื่องจากเป็นปืนสำหรับแข่งในระบบพาดแท่นโดยเฉพาะ และเป็นปืนที่ราคาไม่แพงมากนัก คืออยู่ประมาณ 1,400 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถ้าเป็นปืนเบ็นช์เรสต์เกรดคัสตอม แบบที่มีชื่อขึ้นทำเนียบว่าแชมป์ต่างๆ ใช้แข่งกันอยู่อย่างเช่นปืนของเคลบี้, แบล็กสตาร์ หรือทูลลี่ ปืนพวกนี้จะมีราคาตั้งแต่ 2,200 เหรียญถึง 2,800 เหรียญ แพงอย่างเดียว ยังไม่พอปืนพวกนี้ยังมักจะออกแบบรังเพลิงกันมาเป็นพิเศษต่างจากกระสุนมาตรฐาน อย่างเช่นมีการปรับมุมไหล่กระสุนใหม่ หรืออย่างสถานเบาก็มักจะทำเป็นรังเพลิงแบบคอเล็กกว่าปกติ จะได้วางหัวกระสุนอยู่ในแนวแกนลำกล้องได้พอดี ซึ่งถ้าจะเอามาใช้ในบ้านเรา ก็ต้องลำบากในการแอบๆ ซ่อนๆ หากระสุนมายิงกันอีก

พ.ท.สุพินท์ ผู้เขียนยิงทดสอบ ในระยะ 200 เมตร

คุยกันครั้งนั้นแล้ว ม.ฮะกีมี ก็เงียบหายไปประมาณสามเดือน แล้วอยู่ๆก็โทรศัพท์ชวนผมไปดูปืนที่ร้านเมื่อตอนสี่โมงเย็นบอกว่า ออกของจากดอนเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอไปผมถึงร้านตอนสี่โมงครึ่งปืนก็มาถึงพอดี เปิดกล่องออกมาดูเห็นเป็น 40-XB BR KS สีเขียวสดตรงตามสเป็กปืนพาดแท่น เห็นแบบนี้ก็ต้องรีบโทรศัพท์บอกพรรคพวกทางชมรมไรเฟิล แล้วเพื่อนสมาชิกก็บอกต่อๆ กันไปภายในเวลาครึ่งชั่วโมง 40-XB BR KS ทั้งสามกระบอก ก็ขายหมดเกลี้ยงเอาในตอนห้าโมงเย็นได้เวลาปิดร้านพอดี

คุณวิรัตน์ สุภาษิต เจ้าของปืน ยิงทดสอบในระยะเดียวกัน ต่อมาปืนกระบอกนี้ลงแข่งที่สนามนวมินทร์ฯ เป็นพาดแท่นชนวนกลางแมทช์แรกในชีวิต ของคุณวิรัตน์ ปรากฏว่าได้ที่ 2 ถ้าไม่หลงไปยิงเป้าข้างๆ เสีย 2-3 ชุด คงเข้าที่ 1 ไปแล้ว

ปืนเรมิงตัน 40-XB BR KS หนึ่งในสามกระบอก เจ้าของคือ คุณวิรัตน์ สุภาษิต เจ้าตัวบอกฝากให้ผมช่วยเอาปืนจากร้านมาให้ด้วย ผมก็เลยถือโอกาสขอปืนมายิงทดสอบเสียเลย ซึ่งทางคุณวิรัตน์ก็ตอบไม่ขัดข้อง แถมยังชวนมายิงทดสอบกันที่บ้านไร่ปลายนา ที่อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา ตอนแรกผมก็ ยังตกใจบอกว่านี่มันปืนไรเฟิลนะครับไม่ใช่ปืนอัดลมจะเอามายิงที่บ้านกันง่ายๆได้ยังไง แต่เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอก หลังบ้านมีที่โล่งๆอยู่เหลือเฟือ ไม่ต้องกลัวเสียงปืนไปรบกวนใคร แถมยังเพิ่งขุดบ่อปลาใหม่ๆ มีสันดินช่วยเป็นแบ็กสต็อปให้ ไม่ต้องกังวลว่ากระสุนจะหลุดไปโดนอะไรเสียหาย

ผอ.สุวิทย์ ถามว่าปืนราคาแสนสามเศษไม่ถีบแน่นะ เสร็จแล้วยิงไปสามนัด กลุ่มกระสุนที่เดียวกับคุณวิรัตน์

ตกลง "อวป." ก็เลยไปทดสอบปืนเรมิงตัน 40-XB BR KS กระบอกนี้กันที่อำเภอเสนา พื้นที่ที่ใช้ยิงทดสอบกว้างจริงๆ อย่างที่บอกไว้ แต่เราก็ติดเป้ากันที่ระยะ 200 เมตรตามมาตรฐานที่ยิงแข่งกันอยู่ กระสุนที่ใช้ยิงทดสอบในวันนั้นเป็นลาปัว 167 เกรน หัวรู กับเฟเดอรัล 168 เกรนหัวรูเหมือนกัน แต่เฟเดอรัลไม่ได้ผลิตหัวกระสุนเอง แต่ซื้อหัวกระสุนแบบแมทช์คิงมาจากเซียร่า อีกทีหนึ่ง ผลการยิงทดสอบปรากฏว่าปืนเรมิงตัน 40-XB BR KS กระบอกนี้ไม่ลำเอียงครับ ยิงทั้งกระสุนฟินแลนด์และกระสุนของอเมริกันได้กลุ่มใกล้เคียงกัน

ปืนชุดแรกนี้เป็นขนาด .308 ทั้งหมด ผู้ส่งทดสอบคือ ห้างฯ ม.ฮะกีมี และอย่างที่เรียนให้ทราบว่าปืนทั้งสามกระบอกได้ขาย ไปหมดแล้ว ดูเหมือนจะราคากระบอกละ 132,000 บาท ตอนนี้ได้ข่าวว่าจะมีการสั่งใหม่อีกรุ่นหนึ่ง และเที่ยวนี้นอกจาก 40-X แล้ว เห็นว่าจะทดลองสั่งปืนคัสตอมเกรดจากช่างทำปืน คนที่เป็นผู้ทำปืนให้กับนักยิงปืนที่มีชื่อขึ้นทำเนียบ Hall of Fame ชื่อต้นๆโดยจะระบุ ให้ใช้โครงปืนลำกล้องกับสต๊อก ในระดับเดียวกับปืนที่ยิงชนะเบ็นช์เรสต์ในอเมริกามาแล้ว.

ผู้ส่งทดสอบ เรมิงตัน 40 XB BR KS : จาก หจก. ม.ฮะกีมี
โทร.
222-7791, 222-8371

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 312 ตุลาคม 2543 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com