ไบคาล IZh-35M
ปืนแข่งขันพันธุ์แท้จากรัสเซีย

ปืนแข่งพันธุ์แท้แน่นอนครับ ไม่ใช่ เอาปืนกระเป๋าหรือปืนยิงเล่นแบบติดเป้หลังมาต่อลำกล้อง ฟิตลำเลื่อน ติดศูนย์ปรับได้ แล้วเรียกว่าปืนยิงเป้า ปืนกระบอกนี้ออกแบบมาด้วยจุดประสงค์เดียวคือ จะให้เป็นปืนยิงเป้าแข่งขัน ถ้าเป็นอาคารก็ต้องเรียกว่า Purpose-built (เพอร์เพิสบิลท์) คือกำหนด ลักษณะใช้งานแน่ชัดแล้วถึงออกแบบสร้าง การกำหนดมิติต่างๆของตัวปืน ตลอดจนมุมด้าม แนวลำกล้อง ฯลฯ สอดคล้องกับ กติกาของสมาพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาติ (International Shooting Sports Federation - ISSF ชื่อใหม่ของ UIT) ทุกประการ โดยต้องการให้ได้เปรียบเต็มที่แบบไม่ผิดกติกาครับ


ภาพเต็มไบคาล IZh-35M ด้านซ้าย

ภาพเต็มไบคาล IZh-35M ด้านวา ยังไม่ติดแผ่นรองสันมือที่ด้าม

ในระบบของ ISSF กำหนดประเภทการแข่งขันปืนสั้นไว้รวมหกประเภท คือ ปืนสั้นยิงช้า 50 เมตร (ฟรีพิสตอล), ปืนสั้นอัดลม 10 เมตร ส่วนอีกสี่ประเภทเป็นการ แข่งขันที่ระยะ 25 เมตร มีปืนสั้นยิงเร็ว ปืนสั้นมาตรฐาน ปืนสั้นสปอร์ต และปืนสั้นชนวนกลาง โดยปืนสั้นยิงช้ากับปืนสั้นอัดลมนั้น บังคับให้บรรจุทีละนัด แม้ว่าจะใช้ปืนชนิดมีซองกระสุนก็ต้องบรรจุทีละนัด แต่สำหรับปืนสั้นระยะ 25 เมตรนั้นกลับกันครับ คือบังคับให้ยิงจับเวลาเป็นชุดห้านัด ห้ามนำปืนบรรจุทีละนัดมาแข่งนะครับ (อาจยิงทันเวลากำหนดในประเภทปืนสั้นสปอร์ต กับปืนสั้นชนวนกลาง)


ปุ่มอัดสปริงใต้ลำกล้อง เป็นตัวล็อกครอบชิ้นล่าง

กดปุ่มล็อกพร้อมเลื่อนครอบชิ้นล่าง ออกด้านหน้าจนพ้นจากตัวปืน

ไบคาลรุ่นนี้ เป็นลูกกรด .22LR สำหรับใช้แข่งประเภทปืนสั้นมาตรฐาน กับปืนสั้นสปอร์ต ปืนสั้นสองประเภทนี้ข้อกำหนดของตัวปืนเหมือนกันทุกประการครับ ต่างกันที่สั้นมาตรฐานแข่งเฉพาะนักกีฬาชาย และสั้นสปอร์ตสำหรับนักกีฬาหญิง (บางครั้งเรียกว่า "สั้นมาตรฐานหญิง" หรือ "ปืนสั้น สตรี") จังหวะการยิงของสั้นมาตรฐานคล้ายกับระบบอเมริกัน (NRA) คือ ช้า-เร่ง-เร็ว จังหวะยิงช้า 5 นัด 150 วินาที, ยิงเร่ง 5 นัด 20 วินาที และยิงเร็ว 5 นัด 10 วินาที ใช้เป้าวงกลมเหมือนกันหมด คือเป้าสากลที่วงดำตั้งแต่เจ็ดคะแนนนะครับ ยิงจังหวะละ 4 ชุดรวม 20 นัด สามจังหวะรวม 60 นัด คะแนนเต็ม 600 คะแนน มือเยี่ยมๆ บ้านเรา ยิงได้ 570 ขึ้นไป ส่วนสั้นสปอร์ตภาคยิงช้า 30 นัด คือชุดละ 5 นัด 6 ชุด ให้เวลาชุดละ 6 นาที และภาคยิงเป้าพลิก 30 นัดใช้เป้า ดำล้วนวงใหญ่กว่า แบ่งเป็นชุดละ 5 นัด 6 ชุด โดยแต่ละนัดจับเวลาเป้าพลิกมาให้ยิง 3 วินาที พลิกหันข้าง 7 วินาที (เป้าอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ใช้ไฟเขียวไฟแดงแทนการพลิกเป้าหันข้าง) คะแนนระดับชาติของเรา 580 และถ้าเป็นระดับโอลิมปิกก็ต้อง 590 ขึ้นไปจนเกือบเต็ม 600 นั่นแหละครับ ลักษณะการยิงของปืนสั้นสปอร์ตนี้ เหมือนกับปืนสั้นชนวนกลาง เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้ปืนลูกกรดแทน .32 หรือ .38 ครับ


ดึงลำเลื่อนเข้าให้สุด สังเกตแกนสปริงใต้ลำเลื่อน

ยกครอบตัวบนด้านหน้าขึ้น แล้วผ่อนลำเลื่อนออกมา ครอบตัวบนจะหลุดจากโครง

จากลักษณะการยิง มาดูข้อกำหนดของตัวปืนนะครับ อย่างที่เรียนให้ทราบแล้วว่า สองประเภทนี้ตัวปืนเหมือนกันเป๊ะ ขนาดมิติภายนอกกำหนดไว้ว่าต้องสามารถวางลงในกล่อง 300 x 150 x 50 มม. (วัดภายใน, ยาว x กว้าง x สูง) ได้ ไม่ยื่นพ้นขอบกล่อง น้ำหนักปืนไม่เกิน 1,400 กรัม ความยาวลำกล้องไม่เกิน 153 มม. ระยะห่างศูนย์หน้า-หลังไม่เกิน 220 มม. น้ำหนักไกไม่ต่ำ กว่า 1,000 กรัม ความยาวของ "หงอน" คือด้ามส่วนเหนือง่ามมือที่ยื่นมาด้านหลัง ไม่เกิน 30 มม. และแนวลำกล้องต้องไม่ต่ำกว่าส่วนบนสุดของมือที่ถือปืนขณะยิงครับ ข้อกำหนดสุดท้ายนี่ เพื่อให้ปืนคงสภาพ หน้าตาความเป็นปืน ถ้าไม่กำหนดไว้อาจมีคนออกแบบปืนให้แนวลำกล้องอยู่แถวๆ นิ้วกลาง (เหมือนปืนสั้นยิงช้ารุ่นล่าสุดของสไตเออร์) ยิงแล้วปืนไม่สะบัดขึ้นครับ ยิงซ้ำง่ายมาก ลองดูรายละเอียดของปืน IZh-35M เปรียบเทียบกับข้อกำหนด ISSF นะครับ จะเห็นว่าขนาดตัวของปืนรุ่นนี้เฉียดๆ พิกัดทุกข้อ มีเพียงความยาวกับน้ำหนักรวมของปืนที่พอจะเหลือให้เจ้าของแต่งเพิ่มเติมได้บ้าง


ขยับลำเลื่อนด้านหน้าลง ให้พ้นฐานศูนย์หน้า ค่อยๆ ถอดลำเลื่อนออก ต้องช่วยจับสปริงกันดีดหลุด

ชิ้นส่วนเมื่อถอดทำความสะอาด มีครอบบน-ล่าง ลำเลื่อนสปริงพร้อมแกน

ปืนกระบอกที่ได้รับจากห้างฯ ไกอาร์ม มาทดสอบ หมายเลข M1048 ผลิตในปี 1999 ถ้าพูดถึงฝีมือ ความเรียบร้อย ต้องยอมรับว่าเป็นรองปืนแข่งชั้นนำอย่างวอลเธอร์ แฮมเมอลี หรือปืนของอิตาลี เช่น FAS, พาร์ดีนี, เบอนาเดลลี เป็นต้น แต่ไบคาลมีจุดเด่นคือ เป็นเหล็กล้วนทั้งกระบอก (เหมือนแฮมเมอลี 208 รุ่นเก่า) และแนว ลำกล้องต่ำมากโดยมุมด้ามไม่เอียงจัดเหมือนปืนอิตาลี แนวลำกล้องต่ำช่วยลดอาการสะบัดอย่างที่เรียนให้ทราบแล้วนะครับ เจ้า M35 นี่ เหนือกว่าปืนที่แนวลำกล้องต่ำอื่นๆ เพราะไม่ใช้วิธีเอียงด้าม (คือบังคับให้ยกข้อมือขึ้นโดยฝ่ามืออยู่ระดับเดิม) แต่ใช้การออกแบบย้ายนกสับขึ้นไปไว้บนหลังคาโน่น ทำให้ด้ามจับที่เลื่อนขึ้นมาสูงนั้น ไม่ต้องเอียง บิดข้อมือมากนัก ตรงนี้เป็นผลจากการที่รัสเซียเขาศึกษามุมด้ามของบรรดาแชมป์ของเขา พบว่าด้ามที่เอียงมากๆนั้น เหมาะกับปืนไกเบาอย่างฟรีพิสตอล (ไม่เกิน 50 กรัม) แต่เมื่อกติกาบังคับให้ไกหนักขึ้น พวกปืนสั้นอัดลม (500 กรัม) ปืนสั้นมาตรฐาน (1,000 กรัม) และปืนสั้นชนวนกลาง (1,360 กรัม) ด้ามที่บรรดาแชมป์แต่งเองจนถนัดมือแล้วนั้น จะตั้งใกล้แนวดิ่งมากขึ้นตามน้ำหนักไกครับ พูดง่ายๆคือด้ามที่เอียงมาก ทำให้เหนี่ยวไกหนักหน่อยไม่ถนัด ลองเหยียดแขนออกในแนวระดับ ใช้มือเปล่าทำท่ากำด้ามปืนเหนี่ยวไกนะครับ จากตำแหน่งที่สบายเป็นธรรมชาติจะเหมือนกับจับปืนที่ด้าม ตั้ง แล้วค่อยๆ บิดข้อมือลงเหมือนกดลำกล้องปืนให้ต่ำลง นี่คือลักษณะการกำด้ามเอียง เมื่อบิดข้อมือลงมากหน่อยจะรู้สึกได้ว่าเอ็นยึดเหนี่ยวไกลำบาก


ลักษณะของช่องสลัดปลอก มีส่วนบนของประกับด้ามปิดด้านซ้าย

แท่งรับสกรูยึดแผ่นรองสันมือ มีรางรับอยู่ในโครงด้าม

สะพานไกด้านซ้ายของโครงปืน

ปลายปากกาชี้ตำแหน่งสกรูปรับเซียร์

ในการประกอบแผ่นรองสันมือเข้ากับด้ามปืน พบความรอบคอบของช่างรัสเซีย คือแท่งรับสกรูยึดแผ่นรองสันมือนั้น มีร่องรับอยู่ด้านในของโครงด้ามแทนที่จะอยู่ในเนื้อไม้ของแผ่นประกับนะครับ อาจจะทำให้ ใส่ยากขึ้นเล็กน้อยแต่ช่วยให้ขันสกรูยึดได้แน่นเต็มที่ ปืนแข่งของผมสองกระบอก (จากอเมริกากับอิตาลี) ฝังตัวรับสกรูนี้ไว้ในไม้ พอขันให้แน่นมันจะกินเนื้อไม้ยุบลงไปครับ ประกอบแผ่นรองเสร็จ ลองยกขึ้นเล็ง ศูนย์ หน้าหลังอยู่ได้ระดับกันพอดีไม่ต้องฝืนมือ ยกขึ้นหรือกดลง ตำแหน่งนิ้วเหนี่ยวไกสบายมาก เจ้าหลังอ่อนที่เป็นติ่งเล็กๆ อยู่ตรงง่ามมือ (ด้านขวาของโครงปืน) ไม่เป็นปัญหาใดๆ ทำงานเรียบร้อยดี และจากการที่ IZh-35M ใส่ซองกระสุนในด้าม ไม่ได้ย้ายไปไว้หน้าโกร่งไกเหมือนปืนแข่งรุ่นใหม่ๆ ทำให้ตัวปืนสั้น สามารถต่อเสริมด้ามด้านล่างออกมาได้อีกประมาณหนึ่งนิ้ว (25 มม.) ซึ่งตาม กติกากำหนดว่าห้ามต่อจนพ้นข้อมือนะครับ และสังเกตดีๆ จะเห็นไม้แทรกด้านบนสองข้าง ศูนย์หลัง เป็นอย่างนี้ทุกกระบอกครับ ที่ต้องมีไม้แทรกไว้เพราะเสี้ยนไม้ส่วนที่เป็น "หงอน" ยื่นมาด้านหลังนั้น อยู่ในแนวดิ่งตัดกับความยาวทำให้ด้ามส่วนนี้หักง่าย ไม้ที่เสริมไว้มีแนวเสี้ยนตามความยาวของหงอนด้ามเพิ่มความแข็งแรง


ดูแนวลำกล้องอีกครั้ง
ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ให้มาพร้อมปืน บนสุดคือศูนย์หน้า หลัง ถัดมาเป็นขอรั้งปลอก เซียร์ เข็มแทงชนวน สปริงนกสับ และสปริงลำเลื่อน

การยิงทดสอบกลุ่มกระสุนที่ระยะ 25 เมตร สนามราชนาวี บางนา วันนั้นฝนตกเล็กน้อย ต้องเปิดไฟยิง กลุ่มกระสุนจัดว่าดีมาก สำหรับมือทดสอบที่เรื้อรังไปนานกับการยิงเร่ง ยิงเร็ว ทุกคนรู้สึกได้ว่าปืนกระบอกนี้สะบัดน้อยที่สุด ยิงซ้ำได้ง่าย ไกปืนเป็นแบบ Rolling Trigger คือในจังหวะลั่นจะลากเล็กน้อย ไม่คมกริบเหมือนปืนลูกโม่ซิงเกิลนะครับ ไกแบบนี้เหมาะกับการยิงเร่งยิงเร็ว คือเหนี่ยวไปตามจังหวะเวลา ไม่ใช่เล็งปั้นรอศูนย์เข้าที่แล้วเหนี่ยว ศูนย์ปรับได้สี่ทิศทางมีอักษรอังกฤษกำกับ สกรูตัวบนหมุนเข้ากลุ่มเลื่อนขึ้น (UP) สกรูตัวข้างด้านขวาหมุนเข้ากลุ่มเลื่อนไปทางขวา (R) คือหมุนกลับทางกับปืนเยอรมันทั้งสูงต่ำซ้ายขวาครับ ซองกระสุนที่ ให้มากับปืนสองตัวออกจะฝืดๆหน่อยนะครับ ตัวหนึ่งทำงานเรียบร้อยดี แต่อีกตัวหนึ่งต้องขัดถูรอยเยินภายในอยู่พักใหญ่จึงทำงานได้เรียบร้อย ถ้าซื้อมาควรตรวจสอบซองกระสุนครับ รู้สึกจะเป็นจุดที่หยาบที่สุดของปืนกระบอกนี้


เข็มแทงชนวน เทียบเท่ากับกระสุนลูกกรด

การแต่งไก มีสกรูให้แต่งได้ 5 ตัว เริ่มจากตัวแรกอยู่ที่ตัวไก คลายแล้วเลื่อนไกเข้าออกให้เหมาะกับความยาวของนิ้ว ตัวหน้าไกปรับระยะเหนี่ยวนำก่อนถึงจังหวะสอง ตัวหลังไกเป็นหมุดหยุดไก จากนั้นพลิกขึ้นดูด้านบนครับ สกรูที่อยู่หน้าศูนย์หลังฝังลึกลง ในโครงปืนนั้นคือตัวปรับน้ำหนักไกรวม หมุนได้เป็นคลิก หมุนเข้าไกหนัก คลายออกไกเบาตัวสุดท้ายเป็นตัวปรับเซียร์ ต้องเปิดด้ามด้านซ้ายออก สกรูตัวนี้ฝังแนบกับโครงปืนชี้มาด้านหลัง ปรับยากหน่อยนะครับ หมุนเข้าเซียร์เกาะน้อยลง หมุนออกเกาะมากขึ้น เตือนไว้ก่อนว่าไกปืนรุ่นนี้จะตั้งให้คมกริบไม่ได้นะครับ นกตาม

การถอดทำความสะอาดสะดวกมาก เริ่มจากกดปุ่มใต้ปลายลำกล้อง เลื่อนครอบตัวล่างออกด้านหน้า ดึงลำเลื่อนเข้ามาให้สุด ยกปลายด้านหน้าของครอบตัวบนขึ้น (จับที่ สองข้างศูนย์หน้า) ผ่อนลำเลื่อนออกไปด้านหน้า ครอบตัวบนจะหลุดออก ถึงจุดนี้ระวังหน่อยครับ ขยับลำเลื่อนด้านหน้าลงให้พ้นแท่งรับศูนย์หน้า อีกมือหนึ่งจับสปริงลำเลื่อน ไว้แล้วค่อยๆผ่อนลำเลื่อนออก ถ้าไม่จับสปริงไว้ มันจะดีดออกเองและอาจงอเสียทรงได้ เมื่อผ่อนลำเลื่อนออกมาครึ่งทางแล้วกระดกด้านหลังขึ้น ถอดลำเลื่อนพ้นแท่งรับศูนย์หน้า ครับ


อาจารย์วีระ อุปพงศ์ ในท่ายิงเป้ามาตรฐาน

มุมด้ามไม่เอียงมาก ช่วยให้คุมไกได้ดี

ในการประกอบกลับ เริ่มจากเสียบแกนสปริงเข้าที่ในโครงปืน ใส่ปลายสปริงอีกด้านหนึ่งเข้าในช่องรับที่ปลายลำเลื่อน ดึงสปริงให้หดเข้าแกนพร้อมกับเลื่อนลำเลื่อน ตามเข้ามา สอดปลายลำเลื่อนด้านในเข้าโครง แล้วจึงกระดกปลายด้านนอกเข้าใต้แท่งรับศูนย์หน้า วางแผ่นครอบบนลงโดยให้ปลายด้านในแตะลำกล้อง ปลายด้านนอกเผยอขึ้นเล็กน้อยที่บริเวณศูนย์หน้า ดึงลำเลื่อนเข้ามาให้สุดพร้อมกับกดครอบตัวบนลงให้ล็อกเข้าที่ คลายลำเลื่อนไปชนแท่งรับศูนย์หน้า จากนั้นใส่ครอบตัวล่างเป็นอันเสร็จ จุดที่ต้องระวังคือสปริงลำเลื่อนนะครับ มือหนึ่งจับตัวสปริงดึงเข้า อีกมือหนึ่งเลื่อนลำเลื่อนตาม อย่าให้มันดิ้นหลุดไปได้


เป้าทดสอบจากระยะ 25 เมตร เป้านี้ยิงไป 15 นัด กลุ่มกินซ้าย

ปรับมาขวาสี่คลิก เกินไปขวาเล็กน้อย สิบนัด 94 คะแนน

อย่างที่เกริ่นหัวเรื่องไว้นะครับ ปืนกระบอกนี้ออกแบบมาให้เป็นปืนยิงเป้าแข่งโดยตรง นอกเหนือจากเจ้าหลังอ่อนตัวจิ๋ว นั่นแล้วไม่มีห้ามไกแยก และเมื่อยิงนัดสุดท้าย แล้วลำเลื่อนก็ไม่เปิดค้าง นักกีฬาต้องการให้ความรู้สึกของการยิงทุกนัดเหมือนกันปืนรุ่นเก่าๆ ทางโรงงานทำคันค้างอัตโนมัติมาให้ก็จะถอดออก แม้ว่าจะดูปอนๆ และราคาถูก แต่สมรรถนะในสนามแข่งยอดเยี่ยมไม่แพ้ ปืนแพงๆ ถึงขนาดวอลเธอร์ ที่มี GSP เป็นปืนอมตะ ผลิตติดต่อกันมาตั้งเกือบสามสิบปี แล้วก็ยังสู้เขาได้สบายมาก ยังต้องเจรจาซื้อ เจ้า IZh-35M ตัวนี้ไปแต่งหน้าทาปาก ใส่ด้ามไม้อัดเยอรมัน ติดยี่ห้อวอลเธอร์ KP200 ขายเป็นรุ่น "ประหยัด" สำหรับนักกีฬาที่ ไม่ต้องการปืนโครงเดียวสองขนาด (.22 และ .32) อย่าง GSP แต่ขนาดประหยัดแล้วก็ แพงกว่าราคาไบคาลเดิมเกือบเท่าตัวนะครับ ในเมืองไทย ห้างฯ ไกอาร์ม ตั้งราคาไบคาลตัวนี้สี่หมื่นกลางๆ ถูกกว่าปืนแข่งจากยุโรป ยี่ห้ออื่นกว่าครึ่งครับ

โดยสรุปครับ IZh-35M เป็นปืนแข่งชั้นดีราคาประหยัด ขายพร้อมอะไหล่ครบ ซึ่งตัวที่ดูแล้วสบายใจมากคือเข็มแทงชนวน ทุกคนเห็นแล้วบอกว่าไม่น่าเรียกเข็ม เพราะมันโตเท่าๆปลอกกระสุน .22 และส่วนปลายที่จะตีกระทบท้ายกระสุนนั้น ด้านบนครึ่งวงกลมเป็นเนื้อเหล็กตันสำหรับชนท้ายลำกล้องเมื่อยิงแห้ง ไม่มีทีท่าว่าจะหักได้ง่ายๆ นะครับ นอกจากเข็มแทงชนวนแล้วมีศูนย์หน้า-หลัง ขอรั้งปลอกสปริงนกสับและสปริงลำเลื่อนให้มาพร้อมไขควงพิเศษ กับแส้ล้างปืน ลูกชายผมเองใช้แฮมเมอลี 280 อยู่ เคย รบเร้าจะเอาพาร์ดีนี (ยืมรุ่นพี่ลองยิงแล้ว) พอได้ลองเจ้าไบคาลตัวนี้ยิ้มแต้เปลี่ยนใจครับ ตกลงผมซื้อไว้เองแล้วหนึ่งกระบอก ที่ห้างฯ ไกอาร์มยังพอมีให้เลือกได้ สำหรับท่านที่สนใจปืนแข่งระบบสากลครับ และอีกเกมหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับลูกกรดไม่สะบัดกระบอกนี้ คือ Cracking Plate ยิงกระเบื้องครับ ได้เปรียบมาก.

ผู้ส่งทดสอบ ไบคาล IZh-35M : จาก ห้างฯ ปืนไกอาร์ม
โทร.
225-8502, 225-9870

นิตยสารอาวุธปืน ฉบับที่ 312 ตุลาคม 2543 มีวางจำหน่ายตามแผงหนังสือทั่วประเทศ

Copyright ©2000 www.gunsandgames.com Powered by eighteggs.com